บริษัทมะกันแห่ลดการลงทุนในจีน วิตกผลกระทบสงครามการค้า

ข่าวต่างประเทศ Thursday July 17, 2025 15:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยสภาธุรกิจสหรัฐฯ-จีน (USCBC) ระบุว่า บริษัทอเมริกันที่ลดการลงทุนในประเทศจีนนั้นมีสัดส่วนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อันเนื่องมาจากความสัมพันธ์ทางการค้าที่ย่ำแย่ลงของจีนและสหรัฐ

ผลสำรวจซึ่ง USCBC ได้ทำขึ้นในช่วงเดือนมี.ค.-พ.ค.บ่งชี้ว่า มีบริษัทไม่ถึง 50% ที่ระบุว่าพวกเขาวางแผนจะลงทุนในจีนในปี 2568 ซึ่งลดลงจากระดับ 80% ในปีที่แล้ว และเป็นสถิติต่ำสุดนับตั้งแต่ USCBC เริ่มตั้งคำถามที่คล้ายกันในการสำรวจเมื่อปี 2549

แม้จีนยังคงเป็นศูนย์กลางที่น่าดึงดูดใจสำหรับการผลิตและนวัตกรรม แต่ 75% ของบริษัทที่เข้าร่วมการสำรวจระบุว่า มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ของจีนเป็นข้อกังวลอันดับแรกในเรื่องต้นทุน เนื่องจากพวกเขามักจะต้องพึ่งพาการนำเข้าจากสหรัฐฯ

ขณะที่ 27% ของบริษัทที่เข้าร่วมการสำรวจระบุว่า พวกเขาย้ายหรือวางแผนที่จะย้ายการดำเนินงานบางส่วนออกจากจีน ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2559 นอกจากนี้ 32% ระบุว่าพวกเขาเสียส่วนแบ่งการตลาดในจีนในช่วงสามปีที่ผ่านมา และเกือบ 70% กังวลว่าจะเสียส่วนแบ่งการตลาดในอีกห้าปีข้างหน้า

การสำรวจนี้ครอบคลุมบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ที่มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐฯ โดยกว่า 40% ของบริษัทเหล่านี้สามารถสร้างรายได้ในจีนอย่างน้อย 1 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว

บริษัทสหรัฐฯ ได้เข้าไปลงทุนด้านการผลิตมูลค่ามหาศาลในจีนในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา โดยอาศัยประโยชน์จากค่าแรงที่ค่อนข้างต่ำและผู้บริโภคที่มีฐานะร่ำรวยขึ้นในจีน แต่กำแพงการค้าที่สูงขึ้นและเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงได้กระตุ้นให้บริษัทต่าง ๆ ต้องกลับมาประเมินการดำเนินธุรกิจในจีนอีกครั้ง

แม้การสำรวจประจำปีนี้จะทำขึ้นก่อนที่ความตึงเครียดด้านการค้าจะคลี่คลายลงหลังจากสหรัฐฯ และจีนได้มีการเจรจาร่วมกันที่กรุงลอนดอนในเดือนที่แล้ว แต่ความเชื่อมั่นที่ลดลงอย่างรวดเร็วของบริษัทอเมริกันได้ตอกย้ำถึงผลกระทบของสงครามการค้าที่มีต่อการลงทุนในจีน

ไคล์ ซัลลิแวน รองประธานฝ่ายบริการที่ปรึกษาธุรกิจของ USCBC กล่าวว่า บริษัทสหรัฐฯ ต่างก็อยู่ในโหมดรอคอยดูสถานการณ์ เพื่อรอให้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าผ่านพ้นไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ