โยอาคิม นาเกิล ประธานธนาคารกลางเยอรมนี หรือบุนเดสแบงก์ กล่าวในวันพฤหัสบดี (17 ก.ค.) ว่า ภาษีศุลกากรที่สหรัฐฯ เรียกเก็บกับสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป (EU) ในอัตราที่สูงขึ้นนั้น อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างมากต่อแนวโน้มเศรษฐกิจเยอรมนี
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (12 ก.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากยุโรปและเม็กซิโก ในอัตรา 30% โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.
ก่อนที่ทรัมป์จะประกาศการตัดสินใจดังกล่าว ธนาคารกลางเยอรมนีคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของประเทศจะเผชิญกับภาวะชะงักงันในปี 2568 ก่อนที่จะเติบโตเล็กน้อยที่ 0.7% ในปี 2569
อย่างไรก็ตาม นาเกิลเตือนว่า อัตราภาษีที่สูงขึ้นอาจทำให้แนวโน้มดังกล่าวแย่ลงอย่างมาก โดยสื่อท้องถิ่นรายงานคำกล่าวของเขาว่า "ไม่สามารถตัดความเป็นไปได้ที่ว่าเยอรมนีจะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2568" และเสริมว่า ภาษีที่สูงขึ้นอาจลดโอกาสที่เศรษฐกิจจะเติบโตในปี 2569
ธนาคารกลางเยอรมนีระบุในรายงานประจำเดือนที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ (16 ก.ค.) ว่า เศรษฐกิจของเยอรมนียังคงแสดงสัญญาณอ่อนแอให้เห็นอย่างต่อเนื่อง โดยถึงแม้ว่างบประมาณปี 2568 ของรัฐบาลกลางเยอรมนีจะช่วยฟื้นความเชื่อมั่น แต่ธนาคารกลางเยอรมนีระบุว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจอาจล่าช้าออกไป เนื่องจากความไม่แน่นอนภายนอกที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งภัยคุกคามจากอุปสรรคทางการค้าของสหรัฐฯ ที่ทวีความรุนแรง