ตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มเปิดตลาดผันผวน ขณะที่นักลงทุนจับตาธนาคารกลางจีนประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ทั้งประเภท 5 ปีและ 1 ปี ขณะเดียวกันก็ติดตามความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และบรรดาประเทศคู่ค้า ก่อนที่จะถึงกำหนดเส้นตายในวันที่ 1 ส.ค.
-- ผลการนับคะแนนเบื้องต้นบ่งชี้ว่า พรรคร่วมรัฐบาลญี่ปุ่นสูญเสียเสียงข้างมากในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 ก.ค.) ซึ่งผลลัพธ์ดังกล่าวจะสร้างแรงกดดันอย่างหนักต่อนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ โดยอิชิบะยังคงยืนยันที่จะอยู่ในตำแหน่งต่อไป แม้พรรคของเขาจะประสบความพ่ายแพ้อีกครั้งก็ตาม
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า อิชิบะกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก เนื่องจากพรรคฝ่ายค้านหลักทุกพรรคต่างปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกับพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) และพรรคโคเมอิโตะ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล
ทั้งนี้ พรรค LDP และพรรคโคเมอิโตะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการได้ที่นั่งอย่างน้อย 50 ที่นั่งจาก 125 ที่นั่ง ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่จำเป็นต่อการครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา
-- โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามในกฎหมาย Guiding and Establishing National Innovation for U.S. Stablecoins Act (GENIUS Act) ซึ่งเป็นกฎหมายฉบับแรกของสหรัฐฯ ที่กำกับดูแลสเตเบิลคอยน์
ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาสหรัฐฯ ตั้งแต่เดือนมิ.ย. และผ่านสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยทรัมป์ซึ่งสนับสนุนกฎหมายนี้มาโดยตลอด ได้เข้าแทรกแซงเพื่อเกลี้ยกล่อมให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางส่วนจากพรรครีพับลิกันโหวตเห็นชอบกับร่างกฎหมายนี้
ทรัมป์กล่าวว่า GENIUS Act สร้างกรอบกำกับดูแลที่ชัดเจนและเรียบง่าย เพื่อปลดล็อกศักยภาพมหาศาลของสเตเบิลคอยน์ที่อ้างอิงค่าเงินดอลลาร์ นี่อาจเป็นการปฏิวัติเทคโนโลยีการเงินครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่อินเทอร์เน็ตถือกำเนิด
-- อินวิเดีย (Nvidia) ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำของสหรัฐฯ เผชิญอุปสรรคครั้งใหญ่ในการกลับมาจำหน่ายชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รุ่น H20 ในจีน หลังจากรายงานล่าสุดจากสื่อสหรัฐฯ เผยว่า บริษัทได้แจ้งลูกค้าในจีนว่าชิปดังกล่าวมีอยู่ใน ปริมาณจำกัด แม้จะเพิ่งประกาศเตรียมกลับมาวางจำหน่ายภายใต้ข้อจำกัดการส่งออกของรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ตาม
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งห้ามการจำหน่ายชิป H20 ไปยังจีนตั้งแต่เดือนเม.ย. ส่งผลให้อินวิเดียต้องยกเลิกคำสั่งซื้อจากลูกค้า และคืนโควตาการผลิตที่จองไว้กับบริษัท ไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง (TSMC) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของไต้หวัน
รายงานระบุว่า TSMC ได้เปลี่ยนสายการผลิตจากชิป H20 ไปผลิตชิปรุ่นอื่นให้กับลูกค้ารายอื่นแล้ว ซึ่งหมายความว่า หากอินวิเดียต้องการกลับมาผลิตชิปรุ่นนี้อีกครั้ง อาจต้องใช้เวลานานถึง 9 เดือน โดยเจนเซน หวง ซีอีโอของบริษัทเปิดเผยข้อมูลนี้ในการแถลงข่าวที่กรุงปักกิ่งในสัปดาห์นี้
-- รัฐมนตรีคลังจากกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจเกิดใหม่ 20 ชาติ (G20) แถลงเมื่อวันศุกร์ (18 ก.ค.) ว่า เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับ "ความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นและความท้าทายที่ซับซ้อน" ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ที่ยังไม่คลี่คลาย
การประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลาง G20 ซึ่งจัดขึ้น 2 วันใกล้เมืองเดอร์บัน แอฟริกาใต้ ได้ออกแถลงการณ์ร่วม ซึ่งถือเป็นเอกสารลักษณะนี้ฉบับแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2567 โดย สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ไม่ได้เข้าร่วมการประชุม
ในแถลงการณ์ระบุว่า G20 "ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความร่วมมือพหุภาคีเพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่มีอยู่และที่กำลังเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจโลก" ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลต่อผลกระทบด้านลบจากมาตรการขึ้นภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
-- ความเชื่อมั่นต่อหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ของจีนยังคงอ่อนแอ นักลงทุนจำนวนมากเริ่มไม่คาดหวังการฟื้นตัวภายในปีนี้ หลังรัฐบาลจีนยังไม่ยอมอัดฉีดมาตรการกระตุ้นขนานใหญ่ โดยมอร์แกน สแตนลีย์ประเมินว่ายอดขายอสังหาฯ จะยังซบเซาในไตรมาส 3 และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาดทำให้โอกาสออกมาตรการกระตุ้นระยะสั้นลดน้อยลง
บรรยากาศที่ย่ำแย่นี้ยิ่งตอกย้ำหลังผลประกอบการของผู้พัฒนาฯ รายใหญ่หลายแห่งออกมาต่ำกว่าคาด เช่น Poly Developments and Holdings Group มีกำไรสุทธิครึ่งปีแรกเบื้องต้นลดลง 63% ส่วน Greenland Holdings คาดว่าจะขาดทุนสุทธิระหว่าง 3-3.5 พันล้านหยวน (418 ล้านดอลลาร์) ในช่วงเดียวกัน โดยบริษัทนี้ไม่เหลือนักวิเคราะห์ติดตามแล้วตาม ขณะที่ Poly ถูกลดการติดตามจนทำสถิติต่ำสุดในรอบหลายปี
-- ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ยืนยันว่าได้ยุติการใช้วิศวกรที่ประจำอยู่ในจีนในการให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคแก่กองทัพสหรัฐฯ แล้ว หลังเกิดกระแสกังวลด้านความมั่นคงจากรายงานของสื่อโปรพับลิกา (ProPublica) ซึ่งระบุว่า วิศวกรจีนเคยทำงานเกี่ยวข้องกับระบบคลาวด์ของกองทัพภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของสหรัฐฯ ที่ได้รับการว่าจ้างผ่านผู้รับเหมาช่วง แม้เจ้าหน้าที่เหล่านี้จะได้รับการอนุมัติด้านความปลอดภัย แต่กลับขาดทักษะทางเทคนิคเพียงพอในการประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
กรณีนี้ทำให้ พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ สั่งตรวจสอบสัญญาบริการคลาวด์ของเพนตากอนเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อให้แน่ใจว่า ไม่มีวิศวกรจีนทำงานเกี่ยวข้องกับสัญญาอื่น ๆ อีก พร้อมประกาศให้จีนยุติบทบาทในบริการคลาวด์ของกองทัพสหรัฐฯ โดยทันที
เฮกเซธย้ำว่ากระทรวงกลาโหมจะยังคงติดตามอย่างใกล้ชิด และป้องกันภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นกับโครงสร้างพื้นฐานและเครือข่ายออนไลน์ของกองทัพ