คณะผู้แทนระดับสูงจากซาอุดีอาระเบียมีกำหนดเดินทางถึงกรุงดามัสกัสของซีเรียในวันนี้ (23 ก.ค.) เพื่อลงนามข้อตกลงการลงทุนมูลค่ามหาศาลราว 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจครั้งสำคัญนี้เกิดขึ้นแม้ซีเรียยังคงเผชิญกับสถานการณ์ความรุนแรงระลอกใหม่และการโจมตีทางอากาศจากอิสราเอล
สำนักข่าวอัลอิคบารียาของซาอุดีอาระเบียรายงานว่า ข้อตกลงที่จะลงนามมีมากกว่าสิบฉบับ รวมมูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านริยาล โดยคณะผู้แทนนำโดยคาลิด อัลฟาลีห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุน พร้อมด้วยนักลงทุนกว่า 120 คนจากทุกภาคส่วนธุรกิจ นอกจากนี้ ยังมีแผนจะจัดตั้งเวทีเสวนาการลงทุนซีเรีย-ซาอุดีอาระเบีย เพื่อขจัดอุปสรรคและประกาศโครงการความร่วมมือเพิ่มเติม
การเยือนครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในเขตผู้ว่าการซุวัยดาอ์ ทางตอนใต้ของซีเรีย หลังเกิดเหตุปะทะรุนแรงระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ดรูซ เบดูอินสุหนี่ และกองกำลังของรัฐบาล ขณะที่อิสราเอลได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในกรุงดามัสกัสและเมืองซุวัยดาอ์ โดยอ้างว่าเพื่อปกป้องชุมชนชาวดรูซ ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศซีเรียได้ออกมาประณามว่าการโจมตีดังกล่าวทำให้มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตและสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานอย่างหนัก
การรื้อฟื้นความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ตัดสินใจยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อซีเรียเมื่อเดือนธ.ค. 2567 หลังการโค่นล้มระบอบการปกครองโดยอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด โดยทรัมป์ได้ยกความดีความชอบให้กับการหารือร่วมกับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุฯ และประธานาธิบดีเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน แห่งตุรกี
ก่อนหน้านี้ในเดือนก.พ. ปธน.เฉพาะกาล อาเหม็ด อัลชารา แห่งซีเรีย ได้เดินทางเยือนกรุงริยาดเพื่อหารือถึงแผนความร่วมมือทางเศรษฐกิจในระยะยาวกับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ซึ่งเป็นที่รู้จักในพระนามย่อ MBS มาแล้ว