ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกในปี 2568 ลงสู่ระดับ 4.7% จากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนเม.ย.ที่ระดับ 4.9% และปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2569 ลงเหลือ 4.6% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 4.7% โดยเตือนว่า การที่สหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีศุลกากรและความไม่แน่นอนด้านการค้าได้ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคแห่งนี้
ADB เปิดเผยในรายงาน "Asian Development Outlook" ซึ่งมีการเผยแพร่ในวันนี้ (23 ก.ค.) ว่า อุปสงค์ภายในประเทศของภูมิภาคดังกล่าวคาดว่าจะอ่อนแอลงเนื่องจากหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ ภาวะชะงักงันของห่วงโซ่อุปทาน ตลอดจนราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น และความไม่แน่นอนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน
ADB นิยาม "ประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียและแปซิฟิก" ว่าเป็นภูมิภาคที่ประกอบด้วย 46 ประเทศ ตั้งแต่จีนไปจนถึงจอร์เจียและซามัว โดยไม่รวมบางประเทศอย่างญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
อัลเบิร์ต พาร์ค หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ADB กล่าวว่า แม้ประเทศในเอเชียและแปซิฟิกสามารถรับมือกับสภาพแวดล้อมภายนอกที่ท้าทายมากขึ้นในปีนี้ แต่แนวโน้มเศรษฐกิจกลับอ่อนแอลง อันเนื่องมาจากความเสี่ยงและความไม่แน่นอนทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
สำหรับเศรษฐกิจในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ADB คาดว่าจะชะลอตัวมากที่สุด โดยคาดการณ์ว่าจะขยายตัว 4.2% ในปี 2568 และ 4.3% ในปี 2569 ซึ่งลดลงจากการคาดการณ์เดิมที่ระดับ 4.7% สำหรับทั้งสองปี
ทั้งนี้ พาร์คแนะนำว่า ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ควรเสริมสร้างปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนส่งเสริมการเปิดกว้างด้านการค้าและการรวมกลุ่มระดับภูมิภาค เพื่อสนับสนุนการลงทุน การจ้างงาน และการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้เปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ด้านการค้าโลกด้วยการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศคู่ค้าเกือบทุกราย โดยเกือบทุกประเทศต้องเผชิญกับภาษีศุลกากรในอัตรา 10% ซึ่งมีผลบังคับใช้ในเดือนเม.ย. และหลายประเทศจะเผชิญกับอัตราภาษีที่สูงขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.
อย่างไรก็ดี ล่าสุดปธน.ทรัมป์ได้ประกาศบรรลุข้อตกลงการค้ากับฟิลิปปินส์ โดยจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากฟิลิปปินส์ในอัตรา 19% ลดลงจากที่เคยขู่ว่าเรียกเก็บในอัตรา 20% อีกทั้งบรรลุข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่น โดยจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่นในอัตรา 15% ลดลงจากก่อนหน้านี้ที่ขู่ว่าจะเรียกเก็บในอัตรา 25%
สำหรับการคาดการณ์รายประเทศนั้น ADB ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของไทยในปี 2568 ลงเหลือ 1.8% จากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนเม.ย.ที่ระดับ 2.8% และปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2569 ลงเหลือ 1.6% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 2.9%
ขณะเดียวกัน ADB ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจอินเดียในปี 2568 ลงเหลือ 6.5% จากเดิม 6.7% และปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2569 ลงเหลือ 6.7% จากเดิม 6.8%, ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจมาเลเซียปี 2568 ลงเหลือ 4.3% จาก 4.9% และปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2569 ลงเหลือ 4.2% จาก 4.8%
นอกจากนี้ ADB ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจสิงคโปร์ในปี 2568 ลงเหลือ 1.6% จาก 2.6% และลดคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2569 ลงเหลือ 1.5% จาก 2.4% และปรับลดเศรษฐกิจเวียดนามในปี 2568 ลงเหลือ 6.3% จาก 6.6% และลดคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2569 ลงเหลือ 6.0% จาก 6.5%