มิเชล บูลล็อก ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) กล่าวว่า คณะกรรมการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ RBA พิจารณาแล้วเห็นว่า การผ่อนคลายนโยบายการเงินแบบ "ค่อยเป็นค่อยไปและมีแบบแผน" ถือเป็นการดำเนินการที่เหมาะสม พร้อมกับเสริมว่า ความต้องการแรงงานยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานกำลังค่อย ๆ ชะลอตัวลง
บูลล็อกกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมซึ่งมูลนิธิแอนนิกา (Annika Foundation) จัดขึ้นที่นครซิดนีย์ในวันนี้ (24 ก.ค.) โดยกล่าวว่า เมื่อนำอัตราการว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำและการจ้างงานที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งมาพิจารณาร่วมกันแล้ว ข้อมูลดังกล่าวนับว่าน่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง
การแสดงความเห็นของบูลล็อก มีขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานเมื่อวันที่ 17 ก.ค. ว่า อัตราว่างงานเดือนมิ.ย. ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 4.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นเพียง 2,000 ตำแหน่ง
อย่างไรก็ดี บูลล็อกกล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับที่ RBA ได้คาดการณ์ไว้ในเดือนพ.ค. และข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานเริ่มเข้าสู่ภาวะสมดุลเล็กน้อยตามที่ RBA คาดการณ์ไว้
ผู้ว่าการ RBA ยังกล่าวด้วยว่า แม้ข้อมูลในเดือนมิ.ย.แสดงให้เห็นว่าอัตราว่างงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่มาตรวัดตัวอื่น ๆ เช่น อัตราตำแหน่งงานว่าง (vacancy rate) ยังคงมีเสถียรภาพในช่วงที่ผ่านมา และเมื่อพิจารณาในมุมมองที่กว้างขึ้น มาตรวัดเหล่านี้ไม่ได้ชี้ให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของอัตราการว่างงานในระยะใกล้
การแสดงความเห็นของบูลล็อกโน้มเอียงไปทางการสนับสนุนการคุมเข้มนโยบายการเงิน (hawkish) และส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 ปีดีดตัวขึ้นแตะระดับ 3.48% และทำให้สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น 0.3%
ทั้งนี้ หลังการกล่าวสุนทรพจน์ของบูลล็อก ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า RBA จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกเพียง 2 ครั้งในปีนี้ และให้น้ำหนักเพียง 40% ที่ RBA จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง ซึ่งลดลงจากระดับ 76% ที่ให้น้ำหนักไว้เมื่อวานนี้
นอกจากนี้ การแสดงความเห็นดังกล่าวของผู้ว่าการ RBA ยังส่งผลให้ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดตลาดปรับตัวลง 27.80 จุด หรือ -0.32% แตะที่ระดับ 8,709.40 จุด