หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ (FT) รายงานในวันพฤหัสบดี (24 ก.ค.) ว่า โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐฯ ได้ตัดสินใจที่จะไม่เดินหน้าแผนการปลดพนักงานรอบที่สองในปีนี้ โดยขณะนี้จำนวนพนักงานของโกลด์แมน แซคส์มีมากถึง 46,000 คนในปีนี้
แหล่งข่าวเปิดเผยกับ FT ว่า โกลด์แมน แซคส์ ตัดสินใจไม่เดินหน้าตามแผนการดังกล่าว หลังจากธุรกิจวาณิชธนกิจฟื้นตัวได้ดีกว่าที่ธนาคารคาดการณ์ไว้ ซึ่งรวมถึงรายได้จากค่าธรรมเนียมในธุรกิจวาณิชธนกิจ การที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้น ตลอดจนธุรกิจเทรดดิ้งที่มีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี FT ระบุว่า การตัดสินใจของโกลด์แมน แซคส์ ในเรื่องการลดจำนวนพนักงานนี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ หากสภาพเศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลง
ด้านโกลด์แมน แซคส์ ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้
ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา สื่อบางแห่งรายงานว่า โกลด์แมน แซคส์ วางแผนที่จะปลดพนักงานลงราว 3% - 5% ในการประเมินผลการดำเนินงานประจำปีช่วงฤดูใบไม้ผลิ
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยกำไรและรายได้ในไตรมาส 2/2568 ที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยได้แรงหนุนจากการซื้อขายหลักทรัพย์และตราสารหนี้ โดยกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 10.91 ดอลลาร์ สูงกว่าที่ตัวเลขคาดการณ์ที่ 9.53 ดอลลาร์ และรายได้อยู่ที่ 1.458 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.347 หมื่นล้านดอลลาร์