โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางถึงสกอตแลนด์แล้วในวันนี้ (25 ก.ค.) เพื่อเล่นกอล์ฟเป็นเวลา 5 วัน ก่อนการเยือนอย่างเป็นทางการในเดือนก.ย. ซึ่งเขาจะเข้าพำนักกับสมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ และสมเด็จพระราชินีคามิลลาที่ปราสาทวินด์เซอร์ ส่วนทริปนี้ทรัมป์มีกำหนดเยือนสนามกอล์ฟในแอร์เชอร์และอเบอร์ดีนเชอร์
เซอร์เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษจะพบปะพูดคุยกับทรัมป์ในวันจันทร์ (28 ก.ค.) เพื่อผลักดันให้สหรัฐฯ เร่งสรุปข้อตกลงลดภาษีนำเข้าเหล็กของอังกฤษ และยังคาดว่าจะหารือเกี่ยวกับการลดภาษีนำเข้าสก๊อตวิสกี้ รวมถึงประเด็นยูเครน กาซา และตะวันออกกลางด้วย
ทั้งนี้ ข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-สหราชอาณาจักร ซึ่งทรัมป์เปิดเผยเมื่อ 8 พ.ค. นำไปสู่การลดภาษีสำหรับผู้ผลิตรถยนต์และอากาศยานของอังกฤษ แต่ภาคอุตสาหกรรมเหล็กยังไม่ได้รับสิทธิประโยชน์เท่าที่ควร
ขณะนี้ เหล็กจากสหราชอาณาจักรถูกเก็บภาษีในอัตรา 25% ซึ่งต่ำกว่าอัตราทั่วโลกที่ 50% ซึ่งทรัมป์กำหนด โดยสหรัฐฯ ต้องการให้เฉพาะเหล็กที่ผลิตและหลอมในอังกฤษเท่านั้นที่ได้รับโควตายกเว้นภาษี ขณะที่ปัญหาทางเทคนิคและกฎหมายทำให้การยืนยันโควตาล่าช้า โดยเฉพาะในกรณีของโรงงานทาทา สตีล (Tata Steel) ในพอร์ต ทัลบอต ซึ่งนำเข้าเหล็กจากโรงงานในเครือที่อินเดียและเนเธอร์แลนด์เข้ามาแปรรูป โดยเจ้าหน้าที่อังกฤษคาดว่า การเจรจาอาจบรรลุผลในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ แต่ก็ไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จก่อนหน้านั้น
ด้านคาโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว ระบุว่า การเยือนของทรัมป์ในครั้งนี้ยังรวมถึงการประชุมทวิภาคีกับสตาร์เมอร์ เพื่อปรับรายละเอียดข้อตกลงการค้าครั้งประวัติศาสตร์ที่ทั้งสองประเทศได้บรรลุแล้ว
นอกจากประเด็นเหล็กแล้ว อังกฤษยังต้องการให้ได้รับการยกเว้นจากภาษียาในอนาคต แต่เจ้าหน้าที่อังกฤษไม่ได้คาดหวังว่าจะมีความคืบหน้าในเร็ววัน เนื่องจากรัฐบาลยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องราคายาภายในประเทศ ขณะที่ข้อตกลงด้านยาถูกขัดขวางเพราะความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับบริษัทยาเกี่ยวกับเพดานราคายาที่ระบบสาธารณสุขแห่งชาติ (NHS) ต้องจ่าย อีกทั้งบริษัทยายังไม่ยอมลดราคาในขณะที่นโยบายยาของสหรัฐฯ ยังไม่ชัดเจน โดยทรัมป์เคยเสนอแนวทาง "Most Favoured Nation" ที่อาจผูกให้ราคายาในสหรัฐฯ อิงกับราคายาต่ำสุดในต่างประเทศ
สำหรับการมาเยือนของทรัมป์เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดในสังคมอังกฤษเกี่ยวกับผู้อพยพผิดกฎหมาย โดยทรัมป์เคยวิจารณ์กรุงลอนดอนว่า กลายเป็นเมืองที่เปลี่ยนไปจนจำไม่ได้ และกล่าวหาว่าอังกฤษเปิดประตูต้อนรับญิฮาด ซึ่งทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจอย่างกว้างขวาง
กลุ่ม Stop Trump Coalition เตรียมจัดการประท้วงในอเบอร์ดีน ดัมฟรีส์ และหน้าสถานกงสุลสหรัฐฯ ในเอดินบะระในวันเสาร์นี้ (26 ก.ค.) ขณะที่เอมมา บอนด์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจสกอตแลนด์ ยืนยันว่า ตำรวจจะคุ้มครองสิทธิในการประท้วงอย่างสงบ แต่จะไม่ยอมให้มีพฤติกรรมที่กระทบต่อความปลอดภัยสาธารณะ
ก่อนหน้านี้ในเดือนมี.ค. กลุ่ม Palestine Action เคยก่อเหตุทำลายสนามกอล์ฟ Trump Turnberry และรัฐบาลสตาร์เมอร์เพิ่งประกาศให้กลุ่มนี้เป็นองค์กรก่อการร้าย โดยผู้ที่สนับสนุนกลุ่มนี้อาจถูกจับกุม
ด้านจอห์น สวินนีย์ นายกรัฐมนตรีสกอตแลนด์ระบุว่า เขาจะหยิบยกประเด็นความทุกข์ทรมานที่ไม่อาจจินตนาการได้ในกาซาขึ้นหารือกับทรัมป์ด้วย แต่ยังไม่มีการยืนยันกำหนดการประชุมที่แน่ชัด