ทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศอัตราภาษีนำเข้าฉบับปรับปรุงใหม่ในระดับตั้งแต่ 10%-41% ต่อประเทศคู่ค้าทั่วโลก และสินค้าที่มีการขนส่งจากประเทศที่สาม หรือสินค้าที่มีการสวมสิทธิ์ (transshipped) เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีเหล่านี้ จะต้องถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมอีก 40%
นายอะทาคาน บาคิสคาน นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารแบเรนเบิร์ก กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงล่าสุดในนโยบายภาษีศุลกากรของปธน.ทรัมป์ ยังไม่ใช่ฉากทัศน์ที่เลวร้ายที่สุด เนื่องจากก่อนหน้านี้ปธน.ทรัมป์เคยขู่ที่จะขึ้นอัตราภาษีพื้นฐานเป็น 2 เท่าจากปัจจุบันที่ระดับ 10%
นายบาคิสคานกล่าวว่า ภาษีชุดใหม่ของปธน.ทรัมป์จะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการค้าระหว่างประเทศ และสหรัฐเองก็จะได้รับความเสียหายจากภาษีเหล่านี้ จากการที่เงินเฟ้อภายในประเทศดีดตัวขึ้น และการเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง
นอกจากนี้ นายบาคิสคานระบุว่า ภาษีเหล่านี้ได้บิดเบือนการแข่งขันระหว่างบริษัทที่ผลิตสินค้าในสหรัฐเพื่อจำหน่ายในตลาดภายในประเทศ และบริษัทที่ผลิตสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทจากยุโรป ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้มักแข่งขันกันเองมากกว่าที่จะแข่งขันกับผู้ผลิตในสหรัฐ