ซิตี้ (Citi) ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มการคาดการณ์ราคาทองคำในช่วง 3 เดือนข้างหน้าสู่ระดับ 3,500 ดอลลาร์/ออนซ์ จากเดิมที่ 3,300 ดอลลาร์ และคาดว่ากรอบการซื้อขายจะอยู่ที่ 3,3003,600 ดอลลาร์ จากเดิมที่ 3,1003,500 ดอลลาร์ เนื่องจากซิตี้เชื่อว่าแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในระยะกลางของสหรัฐฯ อ่อนแอลง
ซิตี้ระบุในรายงานวันนี้ (4 ส.ค.) ว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และปัญหาเงินเฟ้อที่เป็นผลมาจากมาตรการภาษีศุลกากรนั้น มีแนวโน้มที่จะยังคงเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ซึ่งเมื่อรวมกับสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงแล้ว ปัจจัยเหล่านี้จะผลักดันให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นตั้งแต่ปานกลางไปจนถึงระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นอกจากนี้ ซิตี้ยังระบุถึงข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ที่อ่อนแอในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 รวมทั้งความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับข้อมูลเชิงสถิติของสหรัฐฯ และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่สูงขึ้นจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีศุลกากรในอัตราที่สูงขึ้นจากสินค้าที่นำเข้าจากประเทศคู่ค้าหลายสิบประเทศ รวมถึงแคนาดา บราซิล อินเดีย และไต้หวัน ขณะที่เจมีสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ กล่าวในรายการ "Face the Nation" ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสเมื่อวันอาทิตย์ (3 ส.ค.) ว่า ภาษีที่เรียกเก็บจากหลายประเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีแนวโน้มที่จะคงอยู่ต่อไป ไม่ใช่ถูกปรับลดลงในระหว่างที่การเจรจาการค้ากำลังดำเนินอยู่
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (1 ส.ค.) สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 73,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 106,000 ตำแหน่ง ขณะเดียวกันสหรัฐฯ ได้ปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนมิ.ย. เป็นเพิ่มขึ้นเพียง 14,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้นมากถึง 147,000 ตำแหน่ง โดยข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.