กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เตรียมเปิดตัวโครงการนำร่อง ซึ่งอาจกำหนดให้ชาวต่างชาติที่ยื่นขอวีซ่าธุรกิจหรือวีซ่าท่องเที่ยวต้องวางเงินประกันสูงสุดถึง 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 485,000 บาท) เพื่อเข้าประเทศ ตามประกาศล่วงหน้าที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ Federal Register เมื่อวันจันทร์ (4 ส.ค.)
-- สำนักข่าวกัมพูชา (AKP) รายงานว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาบริเวณช่องอานม้ายังคงตึงเครียด หลังกระทรวงกลาโหมกัมพูชาออกแถลงการณ์ช่วงเที่ยงวันนี้ (5 ส.ค.) ยืนยันว่า กองทัพไทยยังไม่รื้อถอนลวดหนามที่ขึงไว้ในพื้นที่ซึ่งกัมพูชาอ้างว่าเป็นดินแดนอธิปไตยของตน ขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อคลี่คลายสถานการณ์
-- รันธีร์ ไจสวาล โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย ออกมาคัดค้านสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (EU) ที่วิจารณ์อินเดียเรื่องการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย โดยระบุว่าเป็นการกล่าวหาที่ไม่สมควรและไม่สมเหตุสมผล และประเทศที่วิจารณ์อินเดียในตอนนี้เองก็กำลังค้าขายกับรัสเซียเช่นกัน
-- สหรัฐฯ ประณามเมื่อวันจันทร์ (4 ส.ค.) ต่อคำตัดสินของศาลฎีกาบราซิลที่สั่งกักบริเวณ ฌาอีร์ โบลโซนารู อดีตประธานาธิบดีภายในบ้านพักก่อนการพิจารณาคดีในข้อหาพัวพันแผนก่อรัฐประหาร
-- ฮ่องกงยังคงเผชิญพายุฝนรุนแรง ส่งผลให้ต้องปิดสถานที่สำคัญหลายแห่ง เช่น โรงเรียน หอผู้ป่วยในโรงพยาบาล ศาล และสำนักงานทะเบียน ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงยังคงเปิดทำการตามปกติ หลังมีการปรับนโยบายให้ซื้อขายต่อเนื่องไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นเช่นใดตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
-- สหภาพยุโรป (EU) ประกาศเมื่อวันจันทร์ (4 ส.ค.) ว่า จะระงับแผนการขึ้นภาษีตอบโต้สินค้าสหรัฐฯ เป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งเดิมมีผลบังคับใช้ในวันที่ 7 ส.ค.นี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายเจรจาจัดทำแถลงการณ์ร่วมด้านการค้า หลังจากผู้นำทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นเมื่อวันที่ 27 ก.ค.
-- เรียวเซ อาคาซาวะ หัวหน้าผู้เจรจาภาษีศุลกากรของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (5 ส.ค.) ว่า เขากำลังเตรียมการเดินทางไปยังสหรัฐฯ ในวันนี้ (5 ส.ค.) เพื่อผลักดันให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารให้มีผลบังคับใช้อัตราภาษีรถยนต์ที่ตกลงกันไว้ที่ 15%
-- เจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ไม่พบระเบิดในห้างสรรพสินค้าชินเซเก ในย่านเมียงดงใจกลางกรุงโซล หลังมีผู้ไม่ประสงค์ดีโพสต์ข้อความขู่วางระเบิดบนเว็บไซต์ ดีซี อินไซด์ (DC Inside) และตั้งเวลาให้ระเบิด ณ เวลา 15.00 น. ของวันนี้ (5 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้ต้องมีการอพยพประชาชนกว่า 4,000 คนออกจากพื้นที่
-- สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคอาเซียน+3 (AMRO) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจกัมพูชาจะเติบโต 5.2% ในปี 2568 ชะลอตัวลงจากระดับ 6% ในปี 2567 อันเนื่องมาจากผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และกิจกรรมด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซา แม้ภาคบริการจะยังคงแข็งแกร่งก็ตาม
-- กรมอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น (JMA) เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นเผชิญกับอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 41.6 องศาเซลเซียสที่เมืองอิเสะซากิทางภาคตะวันออกของประเทศในวันนี้ (5 ส.ค.)