รัฐบาลออสเตรเลียกำลังเร่งผลักดันการให้สัตยาบันสนธิสัญญาด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจครั้งสำคัญกับประเทศนาอูรู ชาติเพื่อนบ้านเกาะขนาดเล็ก ให้สำเร็จลุล่วงภายในเดือนหน้า หลังจากเกิดความหวั่นวิตกว่า ข้อเสนอการลงทุนมูลค่ามหาศาลถึง 1 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 2.1 หมื่นล้านบาท) จากจีน อาจขัดต่อเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสนธิสัญญาดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ นาอูรู ซึ่งเป็นประเทศเกาะที่มีประชากรเพียง 12,000 คน ได้ประกาศว่าบรรลุข้อตกลงด้านการลงทุนกับบริษัท "China Rural Revitalization and Development Corp" ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติจีนที่ไม่เป็นที่รู้จัก
ย้อนไปเมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ผู้นำออสเตรเลียกับนาอูรูได้ประกาศทำสนธิสัญญาร่วมกัน โดยฝ่ายออสเตรเลียให้คำมั่นจะอัดฉีดงบประมาณช่วยเหลือ 100 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย และอีก 40 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียสำหรับด้านความมั่นคง เพื่อแลกกับการที่ออสเตรเลียจะมีอำนาจยับยั้ง (วีโต้) การเข้ามามีบทบาทของจีนในภาคส่วนที่ละเอียดอ่อนของนาอูรู อาทิ กิจการความมั่นคง ระบบธนาคาร และการโทรคมนาคม
แม้ฝ่ายนาอูรูจะให้สัตยาบันสนธิสัญญาฉบับนี้ไปแล้ว แต่กระบวนการของออสเตรเลียกลับต้องหยุดชะงักลง เนื่องจากมีการยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งทั่วไปเป็นเวลาหลายเดือน
จากเอกสารข่าวที่รัฐบาลนาอูรูเคยเผยแพร่ ระบุว่าบริษัทจากจีนจะเข้ามาพัฒนาในหลายภาคส่วน ตั้งแต่พลังงานหมุนเวียน อุตสาหกรรมฟอสเฟต การประมง ทรัพยากรน้ำ การเกษตร การคมนาคมขนส่ง ไปจนถึงระบบสาธารณสุข
ทั้งนี้ ออสเตรเลียตั้งเป้าที่จะประกาศการให้สัตยาบันสนธิสัญญากับนาอูรูอย่างเป็นทางการ ในการประชุมสุดยอดผู้นำหมู่เกาะแปซิฟิกที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า ซึ่งเป็นการประชุมที่จีนไม่ได้เข้าร่วม
ความกังวลของออสเตรเลียต่อการแผ่อิทธิพลของรัฐบาลปักกิ่งในภูมิภาคแปซิฟิกทวีความรุนแรงขึ้น นับตั้งแต่หมู่เกาะโซโลมอนได้ลงนามในข้อตกลงความมั่นคงกับจีนเมื่อปี 2565 ประกอบกับเหตุการณ์ที่จีนทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีปพร้อมหัวรบจำลองลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกเมื่อปีที่แล้ว
ด้านรัฐบาลจีนได้ออกมาชี้แจงว่า การเข้ามามีบทบาทในแปซิฟิกของจีนนั้น มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในภูมิภาคเป็นหลัก