รัฐบาลเกาหลีใต้มีแผนจะเพิ่มการใช้จ่ายในปีงบประมาณ 2569 ในอัตราที่สูงสุดในรอบ 4 ปี เนื่องจากประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง ต้องการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจผ่านนโยบายการลงทุนในปัญญาประดิษฐ์ (AI)
กระทรวงการคลังเกาหลีใต้เปิดเผยการใช้จ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ในวันนี้ (29 ส.ค.) โดยกำหนดงบประมาณการใช้จ่ายโดยรวมของรัฐบาลในปีดังกล่าวไว้ที่ 728.0 ล้านล้านวอน (5.244 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 8.1% จากปีงบประมาณ 2568 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2565 โดยไม่รวมงบประมาณเพิ่มเติมสองฉบับที่นำมาใช้ในปีนี้
ปธน.อี แจ-มย็อง ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ได้ให้คำมั่นว่าจะดำเนินนโยบายการคลังแบบขยายตัว (expansionary fiscal policy) เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งแตกต่างจากนโยบายของอดีตประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล ซึ่งให้ความสำคัญกับความยั่งยืนทางการคลังตลอดสามปีที่ผ่านมา โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลภายใต้การนำของปธน.อีได้เปิดเผยแผนเศรษฐกิจที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนด้าน AI
กระทรวงการคลังคาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลการคลังของเกาหลีใต้จะเพิ่มขึ้นเป็น 4.0% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในปี 2569 ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากระดับ 2.8% ในปี 2568 เนื่องจากคาดว่ารายได้จากการจัดเก็บภาษีจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.5% สู่ระดับ 674.2 ล้านล้านวอน นอกจากนี้ คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินต่อ GDP จะเพิ่มขึ้นเป็น 51.6% จากระดับ 48.1%
อย่างไรก็ดี หลังจากปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลเกาหลีใต้มีแผนที่จะชะลอการใช้จ่าย เพื่อให้อัตราการเติบโตของการใช้จ่ายโดยเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 5.5% สำหรับช่วงปี 2568-2572 โดยคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินต่อ GDP จะเพิ่มขึ้นเป็น 58.0% ภายในปี 2572
เศรษฐกิจเกาหลีใต้ในไตรมาส 2/2568 ขยายตัวอัตราที่เร็วที่สุดในรอบกว่าหนึ่งปี โดยได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งของการส่งออกเทคโนโลยีและการฟื้นตัวของการใช้จ่ายผู้บริโภค อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจเกาหลีใต้กำลังเผชิญกับแรงต้านจากมาตรการภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นของสหรัฐฯ ซึ่งมีผลบังคับใช้ในเดือนนี้