คาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ (3 ก.ย.) ว่า เขาได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ เพื่อหารือกันเกี่ยวกับประเด็นเศรษฐกิจและตลาดการเงิน ซึ่งรวมถึงประเด็นค่าเงิน หลังจากสกุลเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า BOJ ยังคงใช้ความระมัดระวังเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
หลังเสร็จสิ้นการพบปะกับอิชิบะที่สำนักนายกรัฐมนตรี อุเอดะกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นเรื่องเหมาะสมที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจะเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพ ซึ่งเป็นการสะท้อนปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ
ผู้ว่าการ BOJ ยังกล่าวด้วยว่า เขาได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและพัฒนาการของตลาด แต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ส่วนในเรื่องนโยบายการเงินนั้น อุเอดะกล่าวว่า BOJ ยังคงรักษาจุดยืนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและราคา
การประชุมระหว่างอุเอดะกับนายกรัฐมนตรีอิชิบะ มีขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่เงินเยนอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 148 เยนต่อดอลลาร์ ภายหลังจากที่การแสดงความเห็นของเรียวโซ ฮิมิโนะ รองผู้ว่าการ BOJ ถูกตลาดตีความว่า BOJ ใช้ความระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ฮิมิโนะกล่าวในการประชุมซึ่งจัดขึ้นที่เมืองคุชิโระ จังหวัดฮอกไกโดเมื่อวานนี้ (2 ก.ย.) ว่า การเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจฟื้นตัวถือเป็นเรื่องที่ "เหมาะสม" แต่ก็เตือนถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ
"สำหรับผู้กำหนดนโยบายแล้ว ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนจะไม่มีวันหายไปจากภูมิทัศน์ เราจึงต้องประเมินความสมดุลของความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านบวกและด้านลบ และตอบสนองอย่างทันท่วงทีและเหมาะสม" ฮิมิโนะกล่าวเมื่อพูดถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ฮิมิโนะกล่าวว่า การที่ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ สามารถทำข้อตกลงปรับลดภาษีศุลกากรเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ถือเป็น "ก้าวสำคัญ" แต่ก็เตือนว่า "เศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนในระดับสูง"
"เราตั้งสมมติฐานว่า ในสถานการณ์ทั่วไป ผลกระทบจากนโยบายการค้าจะเกิดขึ้นในที่สุด ซึ่งจะนำไปสู่การชะลอตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ และทำให้กำไรของบริษัทภายในประเทศลดลง" ฮิมิโนะระบุในการประชุมดังกล่าว