หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ (FT) รายงานว่า รัฐบาลจีนได้สั่งให้บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีหยุดซื้อชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ผลิตโดยบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ของสหรัฐฯ เพื่อเร่งเสริมสร้างอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศให้แข็งแกร่งขึ้นเพื่อแข่งขันกับสหรัฐฯ
FT รายงานว่า สำนักงานไซเบอร์สเปซของจีน (CAC) ได้สั่งให้บริษัทต่าง ๆ อาทิ ไบต์แดนซ์ (ByteDance) และอาลีบาบา (Alibaba) หยุดการทดสอบและสั่งซื้อชิปโมเดล RTX Pro 6000D ซึ่งออกแบบมาเพื่อจีนโดยเฉพาะและเพิ่งเปิดตัวเมื่อ 2 เดือนก่อน โดยหลายบริษัทมีแผนจะสั่งซื้อชิปหลายหมื่นชิ้นและได้เริ่มทดสอบกับซัพพลายเออร์ของอินวิเดียแล้ว ก่อนได้รับคำสั่งให้หยุดดำเนินการดังกล่าว
*เลิกซื้อชิปที่ผลิตโดยสหรัฐฯ - สร้างห่วงโซ่อุปทานพึ่งพาตนเอง
คำสั่งห้ามนี้ถือว่าเข้มงวดกว่าคำแนะนำก่อนหน้านี้ ซึ่งมุ่งเป้าไปที่ชิปรุ่น H20 ของอินวิเดียที่ออกแบบมาสำหรับตลาดจีนเช่นกัน โดยในขณะนี้ จีนผลักดันให้บริษัทในประเทศตัดขาดจากซัพพลายเออร์สหรัฐฯ โดยสิ้นเชิง เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานที่พึ่งพาตนเองได้
ผู้บริหารอุตสาหกรรมรายหนึ่งกล่าวว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนมาก "ก่อนหน้านี้บางคนยังคาดหวังว่า อินวิเดียอาจกลับมาส่งมอบสินค้าได้ หากสถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ดีขึ้น แต่ตอนนี้ทุกคนถูกระดมมาเพื่อสร้างระบบภายในประเทศขึ้นแทนแล้ว"
ทั้งนี้ อินวิเดียได้ทำการพัฒนาชิปรุ่นพิเศษสำหรับจีน หลังจากสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลของโจ ไบเดนได้สั่งห้ามการส่งออกชิปรุ่นทรงพลังที่สุดให้กับจีน
*จีนระดมบริษัทในประเทศเพิ่มกำลังผลิตชิป AI
FT รายงานว่า ทางการจีนเพิ่งเรียกบริษัทภายในประเทศอย่างหัวเว่ย (Huawei), แคมบริคอน (Cambricon), อาลีบาบา (Alibaba) และไป่ตู้ (Baidu) มาประเมินเปรียบเทียบชิปของพวกเขากับชิปของอินวิเดียที่อนุญาตให้ใช้ได้ภายใต้ข้อจำกัดของสหรัฐฯ
แหล่งข่าวระบุว่า หน่วยงานกำกับดูแลเชื่อว่า ชิป AI ของจีนกำลังพัฒนาได้ใกล้เคียงหรืออาจเหนือกว่าชิปรุ่นที่สหรัฐฯ ยังอนุญาตให้เข้าถึงได้
นอกจากนี้ จีนยังตั้งเป้าจะเพิ่มกำลังการผลิตชิป AI ในประเทศให้ได้ 3 เท่าภายในปีหน้า โดยแหล่งข่าวในอุตสาหกรรมระบุว่า "ฉันทามติสูงสุดในตอนนี้คือ การที่จะมีซัพพลายชิปภายในประเทศเพียงพอต่อความต้องการ โดยไม่ต้องพึ่งพาอินวิเดียอีกต่อไป"