ซิตี้แบงก์ (Citibank) คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยรวมสูงสุด 1.5% ภายในสิ้นปีหน้า ซึ่งจะส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอีก และจะกระตุ้นการลงทุนในหุ้นฮ่องกงและจีน พร้อมผลักดันราคาทองคำให้สูงยิ่งกว่าระดับปัจจุบัน
นักวิเคราะห์ของซิตี้แบงก์กล่าวว่า การลดดอกเบี้ยของเฟด ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของฮ่องกงและจีน จะช่วยสร้างเสถียรภาพให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงปีต่อ ๆ ไป
แคลวิน ฮา นักกลยุทธ์การลงทุนอาวุโสภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของซิตี้แบงก์ โกลบอล เวลธ์ (Citi Global Wealth) กล่าวว่า ตัวเลขว่างงานและข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐฯ ทำให้มีแนวโน้มที่เฟดจะลดดอกเบี้ยต่อเนื่องจนถึงปีหน้า พร้อมเสริมว่า การลดดอกเบี้ยจะยิ่งทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่า และดึงดูดนักลงทุนให้โยกเงินไปยังตลาดหุ้นจีนและฮ่องกง
ขณะเดียวกัน แคลวินมองว่า ทองคำยังคงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัย แม้ว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นมากในปีนี้ แต่ก็ยังมีโอกาสสูงขึ้นได้อีก
เขาระบุว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เฟดปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกของปีลง 0.25% และคาดว่าจะลดเพิ่มอีก 0.25% ในการประชุมนโยบายเดือนต.ค. และธ.ค. รวมแล้วคาดว่าดอกเบี้ยจะลดลง 1-1.5% ทำให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 2.75-3% จากเดิม 4.25-4.5% ส่วนราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้น 44% ในรอบปีที่ผ่านมา มีแนวโน้มทะยานแตะ 3,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระยะใกล้ หลังจากทำสถิติสูงสุดที่ 3,752 ดอลลาร์ในวันนี้ (23 ก.ย.)
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ซิตี้แบงก์คาดว่า ดัชนีฮั่งเส็งจะแตะที่ระดับ 26,800 จุดในสิ้นปี 2568 ซึ่งเพิ่มขึ้น 34% จากต้นปี และมีแนวโน้มขึ้นต่อไปถึง 27,500 จุดภายในกลางปีหน้า