สหรัฐฯ เตรียมเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมจากเรือที่มีความเชื่อมโยงกับจีนในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งคาดว่ามาตรการใหม่นี้จะทำให้ผู้ประกอบการเดินเรือชั้นนำ 10 รายมีต้นทุนค่าใช้จ่ายรวมกว่า 3.2 พันล้านดอลลาร์ในปีหน้า
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นในช่วงเวลาที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเดินหน้าจัดการกับอิทธิพลทางทะเลที่เพิ่มขึ้นของจีน โดยรายงานจากบริษัทเอสแอนด์พี (S&P) ระบุว่า เส้นตายวันที่ 14 ต.ค. อาจถูกเลื่อนหรือยกเลิกได้ระหว่างการเจรจารอบใหม่ แต่ความไม่แน่นอนดังกล่าวได้สร้างแรงกดดันให้กับผู้ประกอบการเดินเรือแล้ว และเพิ่มความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ต่อการจัดการกองเรือในระดับโลก
ทำเนียบขาวภายใต้การนำของทรัมป์ชี้ว่า ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากเรือที่สร้าง เป็นเจ้าของ หรือดำเนินการโดยบริษัทจีน จะนำไปใช้สนับสนุนการฟื้นฟูอุตสาหกรรมต่อเรือของสหรัฐฯ โดยร่างกฎหมายเพื่อจัดสรรงบประมาณระยะยาวอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาคองเกรส และได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองพรรคการเมือง
สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ย้ำว่า ผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบเองในการตรวจสอบว่าเรือลำใดเข้าข่ายเสียค่าธรรมเนียม โดยให้ชำระผ่านเว็บไซต์ Pay.gov ของกระทรวงการคลังแทนการชำระที่ท่าเรือ ทั้งยังเน้นว่าภาระในการพิจารณาไม่ได้อยู่ที่หน่วยงานศุลกากรและป้องกันชายแดน (CBP)
ข้อมูลจากบริษัท Alphaliner ระบุว่า เรือที่เป็นของหรือดำเนินการโดยบริษัทจีนจะถูกเก็บค่าธรรมเนียมราคาเดียวที่ 80 ดอลลาร์ต่อหน่วยระวางบรรทุกสุทธิ (net tonnage) ต่อเที่ยวเรือเข้าสหรัฐฯ ขณะที่ผู้ประกอบการที่ไม่ใช่ชาวจีนแต่ใช้เรือที่ต่อในจีนจะถูกเรียกเก็บในอัตราสูงกว่า ระหว่าง 23 ดอลลาร์ต่อหน่วยระวางบรรทุกสุทธิ หรือ 154 ดอลลาร์ต่อความจุตู้คอนเทนเนอร์ 20 ฟุต โดยแต่ละลำจะถูกเรียกเก็บไม่เกิน 5 ครั้งต่อปี
หลังเผชิญแรงกดดันจากอุตสาหกรรมเดินเรือ ทาง USTR ได้ปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมจากข้อเสนอเดิม พร้อมยกเว้นให้ผู้ประกอบการหลายรายในสหรัฐฯ และเลื่อนการเก็บค่าธรรมเนียมเรือบรรทุกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ออกไป
Alphaliner ประเมินว่า บริษัทขนส่งสินค้าทางเรือ COSCO ของจีน รวมถึงกองเรือ OOCL จะได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยอาจต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสูงถึง 1.53 พันล้านดอลลาร์ในปีหน้า หรือเกือบครึ่งหนึ่งของต้นทุนรวมทั้งหมดที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการ 10 รายใหญ่ของโลก ขณะที่บริษัท CMA CGM ของฝรั่งเศสได้เริ่มปรับเปลี่ยนเส้นทางเรือที่ต่อในจีนออกจากเส้นทางสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงภาระดังกล่าว
ด้านรัฐบาลจีนได้ประกาศเตรียมตอบโต้มาตรการของสหรัฐฯ โดยนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ได้ลงนามในคำสั่งเตรียมดำเนินมาตรการโต้กลับต่อการเลือกปฏิบัติต่อเรือและลูกเรือของจีน
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มีกำหนดพบกันในการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ระหว่างวันที่ 31 ต.ค. - 1 พ.ย. นี้ที่ประเทศเกาหลีใต้
ในปีที่ผ่านมา อู่ต่อเรือของสหรัฐฯ ผลิตเรือพาณิชย์ได้ไม่ถึง 10 ลำ ขณะที่อู่ต่อเรือของจีนสามารถผลิตได้มากกว่า 1,000 ลำ รวมทั้งเรือพาณิชย์และเรือทหารจำนวนมาก