อัตสึชิ ทาเคอุจิ อดีตเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) คาดการณ์ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นอาจยอมให้สกุลเงินเยนอ่อนค่าลงในระดับปานกลาง แต่ก็อาจจะเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราหากเงินเยนอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วจนใกล้แตะระดับ 160 เยนต่อดอลลาร์
ทาเคอุจิ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายปริวรรตเงินตราต่างประเทศของ BOJ ในช่วงที่ญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงค่าเงินในช่วงปี 2553-2555 กล่าวว่า เงินเยนควรมีเสถียรภาพจากการที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ปรับตัวแคบลง โดยเขาคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และท้ายที่สุด BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่ BOJ เริ่มถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดำเนินการมาหลายปี ซึ่งจะช่วยหนุนค่าเงินเยนและป้องกันไม่ได้เงินเยนดิ่งลงสู่ระดับ 160 เยนต่อดอลลาร์
เงินเยนมีแนวโน้มอ่อนค่าลงรายสัปดาห์มากที่สุดในวันนี้ (10 ต.ค.) หลังจากซานาเอะ ทาคาอิจิ ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงินและการคลัง ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) และเตรียมก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่น โดยชัยชนะอย่างเหนือความคาดหมายของทาคาอิจิทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังที่ BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้
อย่างไรก็ดี ทาเคอุจิคาดการณ์ว่าเงินเยนจะอ่อนค่าลงอีก หากว่าที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นทำให้ตลาดรู้สึกว่ารัฐบาลจะไม่ให้ความสำคัญต่อความเคลื่อนไหวของเงินเยน
ทั้งนี้ ทาเคอุจิกล่าวว่า หากเงินเยนร่วงลงแตะระดับ 160 เยน/ดอลลาร์ ทางการญี่ปุ่นอาจต้องเข้าแทรกแซงตลาด โดยแม้ว่าการแทรกแซงจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแนวโน้มตลาดเป็นวงกว้างได้ แต่ก็สามารถหยุดยั้งการอ่อนค่าอย่างรวดเร็วของเงินเยนได้
นอกจากนี้ ทาเคอุจิกล่าวว่า ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะพึงพอใจกับการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เพื่อกระตุ้นการส่งออกของประเทศ แต่รัฐบาลทรัมป์ดูเหมือนจะไม่ได้ให้ความสนใจกับการอ่อนค่าของเงินเยน
ในอดีตที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นมุ่งเน้นไปที่การป้องกันไม่ให้เงินเยนแข็งค่าอย่างรวดเร็วเพราะจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่พึ่งพาการส่งออก แต่ตั้งแต่ปี 2565 รัฐบาลหันไปมุ่งเน้นการปกป้องเงินเยนไม่ให้อ่อนค่ามากเกินไป เพราะกังวลว่าจะก่อให้เกิดเงินเฟ้อและบั่นทอนกำลังซื้อของผู้บริโภค