ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เชื่อว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนจะ "เป็นไปด้วยดี" แม้ความตึงเครียดทางการค้ากลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่เขาขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 100% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีน โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 พ.ย.
ทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันเมื่อวันอาทิตย์ (12 ต.ค.) ว่า เขามีความสัมพันธ์ที่ "ยอดเยี่ยม" กับ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน
"เขาเป็นคนที่แกร่งมาก เป็นคนที่ฉลาดมาก เขาเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่สำหรับประเทศของพวกเขา" ทรัมป์กล่าวหลังจากขึ้นเครื่องบินเพื่อเดินทางเยือนอิสราเอลและอียิปต์
คำกล่าวของผู้นำสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากที่เขาได้ออกมาขู่ว่าจะใช้มาตรการภาษีใหม่กับจีนเมื่อวันศุกร์ เพื่อตอบโต้มาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายากของจีน ซึ่งรัฐบาลจีนก็ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้การขู่ขึ้นภาษีของทรัมป์อย่างเป็นทางการเมื่อวันอาทิตย์ โดยระบุว่าพร้อมที่จะใช้มาตรการตอบโต้ที่เด็ดขาด "เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของตน"
เมื่อถูกถามว่าการเก็บภาษีเพิ่มเติมดังกล่าวยังคงเป็นแผนการอยู่หรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า "ใช่ในตอนนี้" แต่ "มาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น" พร้อมทั้งกล่าวต่อไปว่า สำหรับหลายคน วันที่ 1 พ.ย. ซึ่งเขากำหนดให้เป็นวันที่ภาษีอัตราใหม่จะมีผลบังคับใช้นั้น อาจฟังดูเหมือนใกล้เข้ามาแล้ว แต่สำหรับตัวเขาเอง กลับมองว่า มันเป็นเวลาที่ยาวนานมาก ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่ายังมีช่องว่างให้ทั้งสองประเทศสามารถถอยออกจากความขัดแย้งได้
ก่อนหน้านั้นในวันอาทิตย์ ทรัมป์ยังได้โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียว่าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับจีน โดยระบุว่า ผู้นำจีน "เพิ่งมีช่วงเวลาที่แย่ เขาไม่ต้องการภาวะเศรษฐกิจตกต่ำสำหรับประเทศของเขา และผมก็ไม่ต้องการเช่นกัน สหรัฐฯ ต้องการช่วยจีน ไม่ใช่ทำร้าย"
ท่าทีของทรัมป์ที่ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปสู่แนวทางที่ลดการเผชิญหน้ากับจีนลงนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่ดัชนีหุ้นสำคัญของสหรัฐฯ ปิดร่วงลงอย่างรุนแรงเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากความกังวลว่าสงครามการค้าจะปะทุขึ้นอีกครั้ง
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 45,479.60 จุด ลดลง 878.82 จุด หรือ -1.90%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,552.51 จุด ลดลง 182.60 จุด หรือ -2.71% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,204.43 จุด ลดลง 820.20 จุด หรือ -3.56%
สถานการณ์ความตึงเครียดล่าสุดระหว่างสองชาติมหาอำนาจเกิดขึ้นหลังจากที่เมื่อวันพฤหัสบดี จีนได้ประกาศมาตรการควบคุมการส่งออกเพิ่มเติมสำหรับแร่หายาก และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการผลิตสินค้าไฮเทค
หลังจากนั้น ทรัมป์ได้ออกมากล่าวหาจีนในวันศุกร์ว่า มีท่าที "เป็นปรปักษ์อย่างยิ่ง" และกำลังจับสหรัฐฯ และทั่วทั้งโลก "เป็นตัวประกัน" ด้วยการเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการส่งออก พร้อมประกาศว่า สหรัฐฯ จะเริ่มเก็บภาษี 100% ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. หรือเร็วกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการดำเนินการใด ๆ ของจีน ทั้งยังเปรยด้วยว่า อาจยกเลิกการประชุมกับสี จิ้นผิง ที่เกาหลีใต้ในปลายเดือนนี้
ทรัมป์ยังขู่ว่า สหรัฐฯ วางแผนที่จะใช้มาตรการควบคุมการส่งออกผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ที่สำคัญทั้งหมด โดยเริ่มในวันเดียวกันด้วย