สำนักงานสรรพากรจีนเปิดเผยในวันนี้ (14 ต.ค.) ว่า รายได้จากการขายของบริษัทเอกชนในจีนยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปีนี้ ซึ่งตอกย้ำถึงสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนโดยรวมยังคงมีความยืดหยุ่น
ข้อมูลจากสำนักงานสรรพากรระบุว่า การเติบโตของรายได้จากการขายของบริษัทเอกชนเพิ่มขึ้น 2.1% ในไตรมาสแรก, เพิ่มขึ้น 3.1% ในไตรมาส 2 และเพิ่มขึ้น 4.4% ในไตรมาส 3 ของปี 2568 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผลการดำเนินงานของภาคธุรกิจทั่วประเทศมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
นักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่า ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของมาตรการนโยบายต้านวัฏจักร (counter-cyclical policy measures) ที่รัฐบาลจีนได้นำมาใช้ตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว โดยเฉิน ปินไค รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยการเงินและเศรษฐศาสตร์กลาง กล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นสิ่งยืนยันว่า ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทเอกชนฟื้นตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่การใช้จ่ายของผู้บริโภคยังคงขยายตัว และเศรษฐกิจโดยรวมเคลื่อนตัวไปในทิศทางที่มั่นคงและเป็นบวก
นอกจากนี้ ข้อมูลจากสำนักงานสรรพากรจีนยังเผยด้วยว่า รายได้จากภาษีของจีนขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 นับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีนี้ โดยมีกำไรสะสมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 2.6% และ 6.9% ในไตรมาสที่ 2 และ 3 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สำนักงานสรรพากรได้เน้นย้ำถึงการบรรลุเป้าหมายด้านการจัดเก็บภาษีในไตรมาส 3 ปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยภาคการผลิตยังคงมีบทบาทสำคัญ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 31% ของรายได้จากภาษีโดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการผลิตระดับไฮเอนด์ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งสัญญาณถึงความก้าวหน้าในการยกระดับอุตสาหกรรม