💥*แบงก์กัมพูชาออกแถลงการณ์ยันดำเนินงานอย่างอิสระ หวั่นถูกโยงมีเอี่ยวแก๊งสแกมเมอร์

ธนาคารพรินซ์ (Prince Bank Plc.) ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ในกัมพูชา ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ธนาคารมีการดำเนินงานที่เป็นอิสระ และถูกต้องตามกฎหมาย ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) และย้ำว่าผู้ถือหุ้นไม่มีส่วนร่วมในการดำเนินงานประจำวันของทางธนาคาร โดยธนาคารมีการแยกอำนาจอย่างชัดเจนระหว่างผู้ถือหุ้นและฝ่ายบริหาร

ธนาคารพรินซ์ออกแถลงการณ์ดังกล่าว หลังมีรายงานว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐประกาศยึดบิตคอยน์มูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 490,000 ล้านบาทจากกระเป๋าเงินดิจิทัลที่เป็นของนายเฉิน จื้อ (Chen Zhi) ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งสแกมเมอร์ขนาดใหญ่ในกัมพูชา และเป็นผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มบริษัท Prince Holding Group ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจข้ามชาติที่ตั้งอยู่ในกัมพูชา

ทั้งนี้ แถลงการณ์ของธนาคารพรินซ์ระบุว่า:-

ธนาคารพรินซ์ขอสร้างความมั่นใจต่อลูกค้า คู่ค้า และสาธารณชนว่า ธนาคารยังคงดำเนินงานอย่างอิสระและถูกต้องตามกฎหมาย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ที่ได้รับใบอนุญาตภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) โดยกรอบธรรมาภิบาลของธนาคารได้รับการจัดตั้งขึ้นอย่างมั่นคงตามมาตรฐานของ NBC และยึดมั่นในหลักการสูงสุดของความโปร่งใส ความรับผิดชอบ และความซื่อสัตย์สุจริต

ตามประกาศล่าสุดของสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC) ภายใต้กระทรวงการคลังสหรัฐ ธนาคารพรินซ์ขอเน้นย้ำดังต่อไปนี้:-

🔴*การดำเนินงานอย่างอิสระต่อเนื่อง

ธนาคารพรินซ์ยังคงดำเนินงานตามปกติและปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับของกัมพูชาอย่างเคร่งครัด การดำเนินการของ OFAC ไม่มีผลกระทบต่อความสามารถของทางธนาคารในการดำเนินธุรกิจภายในกัมพูชา

🔴*ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับคู่ค้าบางราย

คู่ค้าระดับนานาชาติหรือระดับภูมิภาคบางรายอาจจำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของ OFAC ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความล่าช้าหรือมีการปรับปรับเปลี่ยนบางประการในการให้บริการธุรกรรมระหว่างประเทศหรือการธนาคารผ่านธนาคารตัวแทน อย่างไรก็ตาม ธนาคารพรินซ์ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมเปิดเผยข้อมูลล่าสุดต่อลูกค้าอย่างโปร่งใสเมื่อมีความจำเป็น

🔴*บริการธนาคารและตู้ ATM ไม่ได้รับผลกระทบ

การดำเนินงานของธนาคารทั้งหมด รวมถึงตู้ ATM ระบบธนาคารดิจิทัล และบริการสาขายังคงเปิดให้บริการตามปกติ ลูกค้าสามารถเข้าถึงเงินฝาก ทำธุรกรรม และใช้บริการต่าง ๆ ของธนาคารพรินซ์ได้ตามปกติ

🔴*ธรรมาภิบาลและการกำกับดูแลอย่างอิสระ

ผู้ถือหุ้นไม่มีส่วนร่วมในการดำเนินงานประจำวันของธนาคาร โดยธนาคารพรินซ์มีการแยกอำนาจอย่างชัดเจนระหว่าง "ผู้ถือหุ้น" และ "ฝ่ายบริหาร" เพื่อให้มั่นใจว่าการตัดสินใจทุกอย่างเป็นไปอย่างอิสระ และอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์สูงสุดของลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

🔴*คณะกรรมการบริหารที่มีความเป็นอิสระและมีชื่อเสียง

ธนาคารอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการบริหารอิสระที่ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูง ซึ่งทำหน้าที่กำกับดูแลด้านธรรมาภิบาล การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการบริหารความเสี่ยงให้สอดคล้องกับมาตรฐานของธนาคารแห่งชาติกัมพูชาและแนวปฏิบัติสากล

🔴*ทีมผู้บริหารและซีอีโอที่มีประสบการณ์

ทีมผู้นำของธนาคารนำโดยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ที่มีประสบการณ์ในวงการธนาคารระดับภูมิภาคอย่างกว้างขวาง ซึ่งช่วยให้ธนาคารมีความมั่นคง บริหารจัดการอย่างมืออาชีพ และมุ่งมั่นสู่การเติบโตในระยะยาว พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า

ธนาคารพรินซ์ยังคงมุ่งมั่นในการปกป้องผลประโยชน์ของลูกค้า รักษาเสถียรภาพทางการเงิน และยึดมั่นในหลักความซื่อสัตย์ในการดำเนินงาน โดยธนาคารยังคงทำงานร่วมกับธนาคารแห่งชาติกัมพูชาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่ามีการปฏิบัติตามกฎระเบียบและความโปร่งใสอย่างเต็มรูปแบบ

ความไว้วางใจและความเชื่อมั่นของลูกค้าคือสิ่งสำคัญสูงสุดของเรา

แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้น หลังมีรายงานว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐประกาศยึดบิตคอยน์มูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 490,000 ล้านบาทจากกระเป๋าเงินดิจิทัลที่เป็นของนายเฉิน จื้อ (Chen Zhi) ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งสแกมเมอร์ขนาดใหญ่ในกัมพูชา โดยนายเฉินยังเป็นผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มบริษัท Prince Holding Group ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจข้ามชาติที่ตั้งอยู่ในกัมพูชา

การยึดบิตคอยน์ดังกล่าวถือเป็นการยึดทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ

ทั้งนี้ อัยการสหรัฐได้ยื่นฟ้องนายเฉินต่อศาลรัฐบาลกลางในเมืองบรูคลิน รัฐนิวยอร์ก ในวันนี้ (14 ต.ค.)

อย่างไรก็ดี นายเฉิน หรือที่รู้จักกันในชื่อ วินเซนต์ (Vincent) ยังคงอยู่ในระหว่างการหลบหนี

อัยการระบุว่า บริษัท Prince Holding Group ได้เติบโตอย่างลับ ๆ จนกลายเป็นหนึ่งในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย

นอกจากนี้ นายเฉินและผู้บริหารระดับสูงในเครือ Prince Group ยังถูกกล่าวหาว่า ใช้เส้นสายทางการเมืองในหลายประเทศเพื่อปกป้ององค์กรอาชญากรรมของตนเอง และได้จ่ายสินบนให้เจ้าหน้าที่รัฐเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม

'นายเฉินเป็นผู้นำของหนึ่งในขบวนการฉ้อโกงการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และเป็นผู้ผลักดันอุตสาหกรรมผิดกฎหมายที่กำลังแพร่ระบาดในระดับโลก' นายโจเซฟ โนเซลลา อัยการสหรัฐ กล่าว และเสริมว่า 'โครงการหลอกลวงการลงทุนของกลุ่ม Prince ได้สร้างความสูญเสียมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ และความทุกข์ยากอย่างนับไม่ถ้วนต่อเหยื่อทั่วโลก ซึ่งรวมถึงในนิวยอร์ก โดยอาศัยแรงงานจากการค้ามนุษย์ที่ถูกบังคับให้ทำงานโดยไม่สมัครใจ'

ข้อมูลจากสำนักงานอัยการระบุว่า กลุ่ม Prince ซึ่งดำเนินธุรกิจในกว่า 30 ประเทศ ได้จัดตั้งเครือข่ายสแกมเมอร์ที่มีการบังคับใช้แรงงานทั่วกัมพูชา ซึ่งในค่ายดังกล่าว ผู้ที่ถูกกักขังและถูกบังคับให้ทำงานในโครงการฉ้อโกงการลงทุนคริปโท ได้ขโมยเงินจากเหยื่อในสหรัฐและทั่วโลกเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์

'ขบวนการเหล่านี้หลอกล่อเหยื่อผ่านโซเชียลมีเดียและแอปส่งข้อความ โดยอ้างว่าหากเหยื่อโอนเงินคริปโทให้ พวกเขาก็จะนำไปลงทุนและสร้างกำไร แต่ในความเป็นจริง เงินเหล่านั้นจะถูกขโมยจากเหยื่อ และนำไปฟอกเงินเพื่อประโยชน์ของผู้ก่อเหตุ' ข้อมูลระบุ