มาเลเซียจับตาการลักลอบค้าน้ำมันในรัฐที่ติดกับชายแดนไทย หวั่นโครงการอุดหนุนราคาน้ำมันเบนซินของรัฐบาลถูกนำไปใช้ประโยชน์เพื่อสนับสนุนเครือข่ายค้าน้ำมันเถื่อน หลังข้อมูลพบว่าผู้ขับขี่ในประเทศบางรายใช้น้ำมันที่รัฐอุดหนุนราคาเต็มโควตาอย่างรวดเร็วผิดปกติ
รัฐบาลมาเลเซียได้เปิดตัวโครงการ Budi95 ซึ่งมีผลบังคับใช้ทั่วประเทศเมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งภายใต้โครงการดังกล่าว ชาวมาเลเซียที่เข้าเกณฑ์ได้รับสิทธิ์ จะจ่ายค่าน้ำมันเบนซิน RON95 ในราคา 1.99 ริงกิต (ประมาณ 15.40 บาท) ต่อลิตร แทนที่จะเป็นราคาปกติซึ่งอยู่ที่ 2.60 ริงกิต (20.12 บาท)
ปริมาณเชื้อเพลิงที่ได้รับเงินอุดหนุนถูกจำกัดอยู่ที่ 300 ลิตรต่อเดือนต่อชาวมาเลเซียหนึ่งคน ซึ่งเป็นปริมาณการใช้น้ำมันในระดับปกติ อย่างไรก็ดี โยฮัน มาห์มุด เมริกัน ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รูปแบบการใช้น้ำมันในช่วงแรกของโครงการบ่งชี้ถึงความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชายแดนที่ติดกับประเทศไทย
"จากการวิเคราะห์พบว่า ผู้ที่ใช้โควตาเต็มจำนวนแล้วเป็นผู้ที่เติมน้ำมันในรัฐที่อยู่ตามแนวชายแดน" ปลัดฯ กล่าว พร้อมกับเสริมว่า "ในบรรดาผู้ที่ใช้โควตา 300 ลิตรจนหมดนั้น พบว่ามีจำนวนกว่า 80 คนที่มีเพียงใบขับขี่รถจักรยานยนต์ แต่กลับใช้น้ำมันเต็มโควตาแล้ว ซึ่งหมายความว่า คนเหล่านี้ใช้รถจักรยานยนต์เดินทางข้ามชายแดนวันละกว่า 500 กม. ในช่วงสองสัปดาห์แรกของเดือนต.ค."
การลักลอบค้าน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นปัญหาเรื้อรังตามแนวชายแดนมาเลเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายแดนรัฐกลันตันทางตอนเหนือของมาเลเซียกับภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งผู้ลักลอบสามารถทำกำไรได้อย่างน้อย 30% จากการนำน้ำมันเบนซินที่ได้รับการอุดหนุนราคาจากภาษีของชาวมาเลเซียไปขายต่อ