ยอดการส่งออกแม่เหล็กแร่หายากของจีนปรับตัวลดลงในเดือนก.ย. จุดชนวนความกังวลระลอกใหม่ว่า จีน ในฐานะซัพพลายเออร์รายใหญ่ที่สุดของโลก อาจใช้ความได้เปรียบด้านวัตถุดิบสำคัญนี้เป็นเครื่องมือต่อรองในการเจรจาการค้า
ก่อนหน้านี้ในเดือนเม.ย. และพ.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่การเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ กำลังตึงเครียดจากกำแพงภาษีที่พุ่งสูง รัฐบาลปักกิ่งได้เคยใช้มาตรการจำกัดการส่งออกสินค้ากลุ่มแร่หายากและแม่เหล็กที่เกี่ยวข้องเพื่อกดดันผู้ผลิตยานยนต์ทั่วโลก และล่าสุด ทั้งสองฝ่ายกลับมาขู่ที่จะใช้มาตรการภาษีและจำกัดการส่งออกแร่หายากอีกครั้ง ทำให้เกิดความกังวลว่าจีนอาจกลับไปใช้กลยุทธ์เดิม ซึ่งจะถือเป็นการผิดข้อตกลงผ่อนคลายการควบคุมแร่ธาตุสำคัญ ซึ่งจีนทำไว้กับสหรัฐฯ เมื่อเดือนมิ.ย.
ข้อมูลจากกรมศุลกากรจีนที่เปิดเผยในวันนี้ (20 ต.ค.) ระบุว่า ปริมาณการส่งออกแม่เหล็กแร่หายากของจีนในเดือนก.ย. อยู่ที่ 5,774 ตัน ลดลง 6.1% จากระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนที่ 6,146 ตันในเดือนส.ค. นับเป็นการสิ้นสุดแนวโน้มขาขึ้นที่ดำเนินติดต่อกันมา 3 เดือน
"ความผันผวนอย่างรุนแรงของตัวเลขส่งออกแม่เหล็กแร่หายาก แสดงให้เห็นว่าจีนรู้ดีว่าตนเองถือไพ่ใบสำคัญในการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ" ชิม ลี นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Economist Intelligence Unit (EIU) กล่าว
การลดลงของยอดส่งออกแม่เหล็กแร่หายากในเดือนก.ย. สอดคล้องกับรายงานที่ว่า กระทรวงพาณิชย์จีนกลับมาเพิ่มความเข้มงวดในการออกใบอนุญาตส่งออกอีกครั้ง โดยคล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นช่วงที่สงครามการค้าทวีความรุนแรงสูงสุด อย่างไรก็ตาม หากเทียบเป็นรายปี ยอดการขนส่งในเดือนก.ย. ยังคงเพิ่มขึ้น 17.5%
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงพาณิชย์จีนได้ออกมากล่าวหาสหรัฐฯ ว่าเป็นผู้ปลุกปั่นให้เกิดความตื่นตระหนกไปทั่วโลกต่อมาตรการควบคุมแร่หายากของจีน พร้อมยืนยันว่าจะอนุมัติใบอนุญาตส่งออกสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการใช้งานในภาคพลเรือน แต่นักวิเคราะห์ยังคงกังวลว่าจีนอาจลากผู้ใช้งานเชิงพาณิชย์เข้ามาพัวพันกับมาตรการที่มุ่งเป้าตัดการเข้าถึงวัตถุดิบสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของสหรัฐฯ
"ความสามารถของจีนในการควบคุมการส่งออกแร่หายากถือเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังอย่างยิ่ง" แดน หวัง ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการจีนของ Eurasia Group กล่าว และเสริมว่า ทั่วโลกจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบการบริหารของจีน ซึ่งใช้มาตรการควบคุมทรัพยากรที่สำคัญในลักษณะผูกขาดกับประเทศที่อยู่คนละฝั่ง
สำหรับ 5 ประเทศที่นำเข้าแม่เหล็กแร่หายากจากจีนเป็นปริมาณมากที่สุดในเดือนก.ย. ได้แก่ เยอรมนี เกาหลีใต้ เวียดนาม สหรัฐอเมริกา และเม็กซิโก ส่วนยอดรวมการส่งออกของจีนช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ อยู่ที่ 39,817 ตัน ลดลง 7.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ข้อมูลยังชี้ให้เห็นว่า การขนส่งไปยังสหรัฐฯ ในเดือนก.ย. ลดลงถึง 28.7% จากเดือนก่อนหน้า ขณะที่การส่งออกไปยังเวียดนามกลับเพิ่มขึ้น 57.5% ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งไม่นานก่อนข้อมูลจะถูกเปิดเผย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวว่า เขาไม่ต้องการให้จีน "มาเล่นเกมแรร์เอิร์ทกับเรา" พร้อมแย้มว่าอาจชะลอการขึ้นภาษีหากจีนให้คำมั่นว่าจะกลับมาซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลปักกิ่งยังไม่มีท่าทีว่าจะยอมอ่อนข้อ โดยยืนกรานว่ามาตรการควบคุมการส่งออกใหม่ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ไม่กี่วันก่อนข้อตกลงพักรบทางภาษี 90 วันจะสิ้นสุดลงในวันที่ 10 พ.ย. นั้น สอดคล้องกับมาตรการของประเทศอื่น ๆ และแม้ว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะมีกำหนดพบกับทรัมป์ที่เกาหลีใต้ปลายเดือนนี้ แต่นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสองมหาอำนาจอาจกลายเป็น "นิวนอร์มัล" ไปแล้ว