ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวผสมผสานในเช้าวันนี้ (30 ต.ค.) หลังจาก เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ระบุว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นั้น ยังไม่ได้มีการตัดสินใจที่แน่นอน
นอกจากนี้ บรรดานักลงทุนจับตาการพบกันในวันนี้ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ซึ่งนับเป็นการพบกันแบบตัวต่อตัวครั้งแรกของทั้งสองผู้นำในสมัยที่สองของทรัมป์
-- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติ 10-2 ปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมเมื่อวานนี้ (29 ต.ค.) ตามการคาดการณ์ของตลาด
-- เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินในวันพุธ (29 ต.ค.) โดยกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า คณะกรรมการ FOMC มีมติที่ไม่เป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับการดำเนินการครั้งต่อไปของเฟด
"ในการหารือของคณะกรรมการในการประชุมครั้งนี้ มีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการในเดือนธ.ค." พาวเวลกล่าว และเสริมว่า "การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมในการประชุมเดือนธ.ค. ยังไม่แน่นอน หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ห่างไกลจากความแน่นอน"
-- โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีสาธารณสุขของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพุธ (29 ต.ค.) ว่า หลักฐานในปัจจุบันยังไม่ชี้ชัดว่า ยาแก้ปวดไทลินอลของบริษัทเคนวิว (Kenvue) เป็นสาเหตุของภาวะออทิซึมหรือไม่ แต่ก็ยังควรใช้ยาดังกล่าวด้วยความระมัดระวัง โดยถ้อยแถลงนี้มีขึ้นหนึ่งเดือนหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า หน่วยงานสาธารณสุขของสหรัฐฯ จะออกคำแนะนำให้จำกัดการใช้ยาดังกล่าว
เคนเนดีกล่าวถ้อยแถลงนี้เพียงหนึ่งวันหลังจากรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นรัฐที่อยู่ภายใต้การนำของพรรครีพับลิกัน ยื่นฟ้องบริษัทผู้ผลิตยาแก้ปวดดังกล่าว ซึ่งมีชื่อสามัญว่าอะเซตามิโนเฟน และวางจำหน่ายอย่างแพร่หลายมานานหลายทศวรรษ
-- ซาฟรูล อาซิซ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุน การค้า และอุตสาหกรรมของมาเลเซีย กล่าวว่า มาเลเซียจะยังคงห้ามการส่งออกแร่หายากในรูปของแร่ดิบเพื่อปกป้องทรัพยากรภายในประเทศ แม้รัฐบาลเพิ่งลงนามในข้อตกลงแร่ธาตุสำคัญกับสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้
-- ธนาคารกลางแคนาดา (BoC) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 2.25% ในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด
การดำเนินการเมื่อวานนี้นับเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ของ BoC ในปีนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจจากผลกระทบของความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐฯ
-- ราคาหุ้นของ Nvidia ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นมากกว่า 4% เมื่อวานนี้ ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบริษัททะลุระดับ 5 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่บริษัทสหรัฐฯ มีมูลค่าตลาดแตะระดับดังกล่าว และทำให้ Nvidia ยังคงครองตำแหน่งบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในโลก
นอกจากนี้ หุ้น Nvidia ทะยานขึ้นมากกว่า 50% นับตั้งแต่ต้นปี โดยได้แรงหนุนจากกระแสความนิยมในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ โพสต์ข้อความบน Truth Social เมื่อวานนี้ ระบุว่า เขาเตรียมพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในวันนี้ โดยคาดว่าการเจรจาจะเป็นไปอย่างราบรื่น
"ผมสามารถนำเงินนับล้านล้านดอลลาร์กลับสู่สหรัฐฯ นี่เป็นการเดินทางที่ยอดเยี่ยม ผมได้พบกับผู้นำหลายคนที่ฉลาด มีปัญญา และมีความสามารถ วันพรุ่งนี้ผมจะได้พบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ซึ่งจะเป็นการประชุมที่ยอดเยี่ยมสำหรับทั้งสองฝ่าย!!!" ปธน.ทรัมป์ระบุ
-- ราคาหุ้นเมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes-Benz) ผู้ผลิตรถยนต์หรูจากเยอรมนี พุ่งขึ้น 5.7% เมื่อวานนี้ ทำสถิติปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2565 แม้บริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ซบเซา
ทั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์เปิดเผยว่า กำไรจากการดำเนินงานลดลง 70% ในไตรมาส 3 โดยได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการปลดพนักงานหลายพันตำแหน่ง ขณะที่กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) อยู่ที่ระดับ 750 ล้านยูโร ลดลงอย่างมากจากระดับ 2.5 พันล้านยูโรในช่วงเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ดี บริษัทตั้งเป้าประหยัดค่าใช้จ่าย 5 พันล้านยูโรภายในปี 2570
-- สมาคมธนาคารเพื่อการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย (MBA) ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 7.1% ในสัปดาห์ที่แล้ว หลังอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวลดลง
ทั้งนี้ จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์เพิ่มขึ้น 9% ในสัปดาห์ที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 111% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนจำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 5% ในสัปดาห์ที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
-- ข้อมูลและเหตุการณ์เศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ (30 ต.ค.) มีดังนี้:-
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย
เยอรมนีเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนต.ค. และผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2568 (ประมาณการเบื้องต้น)
อียูเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2568 (ประมาณการเบื้องต้น), อัตราว่างงานเดือนก.ย., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค. และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย
สหรัฐฯ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2568 (ประมาณการเบื้องต้น)