ฮุนได มอเตอร์ (Hyundai Motor) ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของเกาหลีใต้ เปิดเผยในวันนี้ว่า กำไรสุทธิของบริษัทร่วงลง 20.5% ในไตรมาส 3/2568 สู่ระดับ 2.54 ล้านล้านวอน (1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากระดับ 3.2 ล้านล้านวอนในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
ด้านกำไรจากการดำเนินงานร่วงลง 29.1% สู่ระดับ 2.53 ล้านล้านวอนในไตรมาส 3 จากระดับ 3.58 ล้านล้านวอนในปีก่อนหน้า ส่วนยอดขายเพิ่มขึ้น 8.8% แตะที่ 46.72 ล้านล้านวอนในไตรมาส 3 จาก 42.92 ล้านล้านวอนในปีก่อนหน้า
ฮุนไดระบุว่า ผลประกอบการรายไตรมาสของบริษัทได้รับผลกระทบนับตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย. เป็นต้นมา ซึ่งเป็นวันที่รัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มจัดเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตรา 25% ปัจจุบัน สหรัฐฯ ยังคงเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากเกาหลีใต้ในอัตรา 25% ส่วนอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ที่เรียกเก็บจากญี่ปุ่นและสหภาพยุโรปลดลงสู่ระดับ 15%
อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดีอี แจ-มยอง ของเกาหลีใต้ ได้ประชุมสุดยอดร่วมกันเมื่อวันพุธ (29 ต.ค.) ซึ่งทรัมป์เห็นพ้องที่จะปรับลดอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์จากเกาหลีใต้ลงเหลือ 15% ขณะที่ทั้งสองฝ่ายสามารถสรุปรายละเอียดเรื่องการลงทุน หลังจากที่เกาหลีใต้ให้คำมั่นว่าจะลงทุนมูลค่า 3.5 แสนล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ
ฮุนไดคาดการณ์ว่า การที่สหรัฐฯ ลดภาษีนำเข้ารถยนต์จะช่วยให้บริษัทสามารถแข่งขันกับผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นและคู่แข่งรายอื่น ๆ ในตลาดสหรัฐฯ ได้มากขึ้น
สำหรับในไตรมาส 4 นั้น ฮุนไดมีแผนว่าจะเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายรถไฮบริดที่ใช้น้ำมันเบนซินในตลาดโลก ท่ามกลางความต้องการรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ชะลอตัวลงทั่วโลก พร้อมทั้งมีแผนเปิดตัวรุ่นใหม่ ๆ ในปีหน้า