ตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มผันผวนในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนต.ค.ของจีนจาก RatingDog เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางของภาคการผลิต หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (31 ต.ค.) ว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 ในเดือนต.ค. บ่งชี้ว่ารัฐบาลจีนจำเป็นต้องเร่งออกมาตรการกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการของเอเชียในวันนี้ ซึ่งรวมถึงดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนต.ค.ของออสเตรเลียและเกาหลีใต้ซึ่งจะรายงานโดย S&P Global รวมทั้งดุลการค้าและอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย.ของอินโดนีเซีย
-- ราคาน้ำมัน WTI ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 61 ดอลลาร์ในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ได้ตัดสินใจระงับการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในไตรมาส 1/2569 เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด
ณ เวลา 07.01 น.ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับตัวขึ้น 44 เซนต์ หรือ 0.72% แตะที่ระดับ 61.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในการประชุมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (2 พ.ย.) สมาชิกทั้ง 8 ประเทศของกลุ่มโอเปกพลัส ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย รัสเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต โอมาน อิรัก คาซัคสถาน และแอลจีเรีย มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีก 137,000 บาร์เรล/วันในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับเดียวกับที่ปรับเพิ่มในเดือนต.ค.และเดือนพ.ย.
อย่างไรก็ดี แถลงการณ์ของโอเปกพลัสระบุว่า "เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยตามฤดูกาลแล้ว โอเปกพลัสได้ตัดสินใจที่จะระงับการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนม.ค., เดือนก.พ. และเดือนมี.ค. ปี 2569" ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวบ่งชี้ว่ากลุ่มโอเปกพลัสเริ่มชะลอแผนการทวงคืนส่วนแบ่งตลาด เนื่องจากมีความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด
-- ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวลงกว่า 20 ดอลลาร์ในช่วงเช้าวันนี้ (3 พ.ย.) หลังจากรัฐบาลจีนประกาศยุติการให้สิทธิประโยชน์ภาษีทองคำ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคในประเทศจีนซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดทองคำรายใหญ่ของโลก โดยรัฐบาลจีนคาดว่าการยกเลิกสิทธิประโยชน์ทางภาษีครั้งนี้จะช่วยเพิ่มรายได้ให้ภาครัฐในช่วงที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซาและเศรษฐกิจโดยรวมเติบโตช้าลง
ณ เวลา 07.26 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 20.30 ดอลลาร์ หรือ 0.51% แตะที่ระดับ 3,976.20 ดอลลาร์/ออนซ์
รัฐบาลจีนประกาศยุติการให้สิทธิประโยชน์ภาษีทองคำที่มีมานาน ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคในประเทศจีนซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดทองคำรายใหญ่ของโลก โดยมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา (1 พ.ย.)
ตามกฎเกณฑ์ใหม่ของกระทรวงการคลัง จีนจะไม่อนุญาตให้ผู้ค้าปลีกหักภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากการขายทองคำที่ซื้อจากตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้อีกต่อไป ไม่ว่าจะขายโดยตรงในรูปทองแท่ง หรือผ่านกระบวนการผลิตเป็นเครื่องประดับก่อนขายก็ตาม โดยข้อบังคับนี้ครอบคลุมทั้งผลิตภัณฑ์เพื่อการลงทุน เช่น ทองคำแท่ง ทองคำบริสุทธิ์ และเหรียญทองที่ได้รับการอนุมัติจากธนาคารกลางจีน รวมถึงทองคำที่ใช้ในภาคการผลิตเครื่องประดับและอุตสาหกรรมต่าง ๆ
-- ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ได้เผยแพร่เอกสารรายละเอียดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (1 พ.ย.) เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้ทำไว้ก่อนหน้านี้ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ โดยจีนจะระงับการบังคับใช้มาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายากเพิ่มเติม และจะยุติการสอบสวนบริษัทสัญชาติสหรัฐฯ ในซัพพลายเชนเซมิคอนดักเตอร์ด้วย
ข้อตกลงดังกล่าวระบุว่า จีนจะออกใบอนุญาตทั่วไปสำหรับการส่งออกแร่หายาก รวมถึงแกลเลียม เจอร์เมเนียม พลวง และกราไฟต์ ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการยกเลิกมาตรการควบคุมที่จีนประกาศใช้เมื่อเดือนเม.ย. 2568 และต.ค. 2565 นอกจากนี้ สหรัฐฯ และจีนเคยระบุว่า จีนจะระงับมาตรการควบคุมที่เข้มงวดกว่าซึ่งประกาศในเดือนต.ค. 2568 เป็นเวลาหนึ่งปีด้วยเช่นกัน
-- สหภาพนักบินเยอรมนี (VC) ตัดสินใจให้เวลาสายการบินลุฟท์ฮันซ่า (Lufthansa) เพิ่มเติม เพื่อหาข้อสรุปเรื่องเงินบำนาญ ทำให้แผนการประท้วงหยุดงานที่หลายฝ่ายกังวลถูกระงับไว้ก่อน โดยทางสหภาพฯ จะเรียกร้องให้ฝ่ายนายจ้างยื่นข้อเสนอในการเจรจาที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่เดือนพ.ค.อีกครั้ง และต้องกำหนดเส้นตายชัดเจน
สหภาพฯ ระบุในจดหมายว่า "เราจะให้เวลาฝ่ายบริหารในเรื่องนี้ ในตอนนี้จึงไม่น่าจะมีการเคลื่อนไหวประท้วงหยุดงานใด ๆ" อย่างไรก็ดี สหภาพฯ ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าให้เวลาฝ่ายบริหารมากน้อยเพียงใด
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังก่อนหน้านี้สมาชิกสหภาพ VC ได้ลงคะแนนเสียงสนับสนุนการหยุดงานประท้วง แต่ลุฟท์ฮันซ่า ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติของเยอรมนีและหนึ่งในสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป เบี่ยงเบนสถานการณ์ไปได้ด้วยการเปิดโต๊ะเจรจารอบใหม่ ซึ่งสุดท้ายก็ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้
สหภาพฯ เรียกร้องให้สายการบินเพิ่มเงินสมทบของนายจ้างในแผนเงินบำนาญสำหรับพนักงานในห้องนักบินจำนวน 4,800 คน ทั้งของลุฟท์ฮันซ่าและลุฟท์ฮันซ่า คาร์โก
-- บริษัทที่ปรึกษาการเงินเจฟเฟอรีส์ (Jefferies) ประเมินว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะยุติการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2569 เนื่องจากความไม่แน่นอนด้านการค้ากำลังคลี่คลาย และร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจ "One Big Beautiful Bill" ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ อาจช่วยผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีหน้า ซึ่งจะลดแรงกดดันให้เฟดต้องใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป
เจฟเฟอรีส์ระบุในบันทึกล่าสุดว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะได้แรงสนับสนุนจากความชัดเจนด้านนโยบายการค้าและการคลัง รวมถึงแรงจูงใจด้านการลงทุนจากร่างกฎหมายดังกล่าว ประกอบกับผลบวกบางส่วนจากการปรับลดดอกเบี้ยที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันยังไม่เห็นความจำเป็นที่เฟดจะต้องลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปี 2569
-- สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ส่งหนังสือเตือนถึง 4 บริษัท พร้อมมีแผนดำเนินการทางกฎหมายต่อการจำหน่ายยาสั่งจ่ายสำหรับเด็กที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ซึ่งไม่ได้รับอนุมัติ โดยการดำเนินการครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามระดับรัฐบาลในการถอนอาหารเสริมฟลูออไรด์ชนิดรับประทานออกจากตลาด
โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีสาธารณสุขสหรัฐฯ ซึ่งวิพากษ์การใช้ฟลูออไรด์มาอย่างยาวนานระบุว่า การตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการปกป้องสุขภาพของเด็ก ๆ และย้ำว่า FDA กำลังยุติแนวคิดทางวิทยาศาสตร์เก่าที่ล้าสมัย เพื่อปกป้องเด็ก ๆ จากความเสี่ยงของฟลูออไรด์ชนิดรับประทาน
ฟลูออไรด์เป็นแร่ธาตุที่พบตามธรรมชาติในน้ำ ดิน และอากาศ และได้รับการพิสูจน์ว่าช่วยป้องกันฟันผุและการสึกกร่อนของฟัน โดยหลายทศวรรษที่ผ่านมา ฟลูออไรด์ถูกเติมในน้ำประปาและผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก เช่น ยาสีฟัน