ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core Inflation) จะยังคงอยู่ในระดับสูงกว่ากรอบเป้าหมายไปจนถึงกลางปี 2569 เนื่องจากอุปสงค์ผู้บริโภคและราคาบ้านปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะจำจัดโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม
RBA ระบุในแถลงการณ์นโยบายการเงินรายไตรมาสว่า ข้อมูลที่ RBA ได้รับเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งรวมถึงเศรษฐกิจที่ขยายตัวแข็งแกร่งขึ้น ตลอดจนเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และตลาดแรงงานที่ยังคงตึงตัว บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจมีกำลังการผลิตน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ RBA คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งเป็นข้อมูลที่ RBA จับตาอย่างใกล้ชิดนั้น จะดีดตัวขึ้นแตะระดับ 3.2% ภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันที่ระดับ 3% โดยตัวเลขคาดการณ์ล่าสุดนี้เพิ่มขึ้นอย่างมากจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะทรงตัวอยู่ที่ 2.6% ในช่วงเวลาหลายปีข้างหน้า
ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวบ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของออสเตรเลียจะยังไม่ลดลงสู่กรอบเป้าหมายของ RBA ที่ระดับ 2% - 3% จนกว่าจะถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2569 และจะยังไม่ลดลงแตะระดับ 2.6% จนกว่าจะถึงสิ้นปี 2570
ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline Inflation) คาดว่าจะพุ่งแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 3.7% ภายในกลางปีหน้า โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการหมดอายุของนโยบายลดหย่อนค่าไฟฟ้าของรัฐบาล และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะชะลอตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 2.6% ภายในสิ้นปี 2570
นอกจากนี้ RBA ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของจ้างงานรายปีลงมาอยู่ที่ระดับ 1.1% ภายในช่วงกลางปีหน้า และคาดว่าการอุปโภคบริโภคของภาคครัวเรือนจะขยายตัวรวดเร็วขึ้นเล็กน้อย แตะที่ระดับ 2.1%
สำหรับการประชุมนโยบายการเงินวันนี้ คณะกรรมการ RBA มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 3.6% พร้อมกับเตือนว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในระบบเศรษฐกิจปรับตัวสูงขึ้น และย้ำว่าการดำเนินนโยบายการเงินในการประชุมครั้งต่อไปจะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่จะได้รับ