ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบในวันนี้ (7 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเมื่อวานนี้ ท่ามกลางความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับมูลค่าหุ้นที่สูงเกินจริงของกลุ่มธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หุ้นของบริษัทเทคโนโลยีด้าน AI รายใหญ่ในสหรัฐฯ ปรับตัวลงเมื่อวานนี้ ซึ่งกดดันตลาดโดยรวม โดยหุ้นที่ร่วงหนักที่สุดได้แก่ Nvidia, Microsoft, Palantir Technologies, Broadcom และ Advanced Micro Devices
บรรดานักลงทุนในเอเชียจับตาข้อมูลการค้าของจีนประจำเดือนต.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ยอดส่งออกของจีนอาจเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบรายปี ชะลอลงจากที่เพิ่มขึ้น 8.3% ในเดือนก.ย. ขณะที่ยอดนำเข้าอาจเพิ่มขึ้น 3.2% ชะลอลงจากระดับ 7.4%
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (6 พ.ย.) ว่า เขาจะพิจารณาแผนสำรอง หากศาลฎีกาตัดสินไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาลในประเด็นความชอบด้วยกฎหมายของมาตรการเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ที่ใช้กับสินค้านำเข้าจากเกือบทุกประเทศ
ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า "เราคิดว่า เมื่อวานนี้เราทำได้ดีมาก" หลังจากที่บรรดาผู้พิพากษาศาลฎีกาแสดงความสงสัยต่อความชอบด้วยกฎหมายของมาตรการเก็บภาษีศุลกากรในอัตราสองหลัก ซึ่งทรัมป์ระบุว่าจำเป็นต่อการปกป้องความมั่นคงของประเทศ
-- แนนซี เพโลซี อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวานนี้ (6 พ.ย.) ว่าจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งในปีหน้า และจะอำลาตำแหน่งสมาชิกสภาคองเกรสเมื่อสิ้นสุดวาระปัจจุบัน
เพโลซี วัย 85 ปี เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประจำรัฐแคลิฟอร์เนียตั้งแต่ปี 2530 และดำรงตำแหน่งผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎรระหว่างปี 2546-2550 รวมทั้งดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร 2 สมัย โดยครั้งแรกระหว่างปี 2550-2554 และอีกครั้งระหว่างปี 2562-2566
-- ออสตัน กูลส์บี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาชิคาโก กล่าวว่า เขามีความลังเลที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงต่อไป เนื่องจากการปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์ ทำให้ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่สำคัญ
ทั้งนี้ แม้กูลส์บีจะเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่เฟดที่สนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC ว่า เขามีความกังวลต่อการขาดข้อมูลราคาที่สำคัญ โดยเฉพาะในช่วงที่อัตราเงินเฟ้อโดยทั่วไปเริ่มกลับมาสูงขึ้นในระยะนี้
-- ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 10% เมื่อวานนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ของหุ้นในธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ณ เวลา 23.23 น. ตามเวลาไทยเมื่อวานนี้ (6 พ.ย.) ดัชนี VIX พุ่งขึ้น 10.11% สู่ระดับ 19.83
ดัชนี VIX อยู่ใกล้ระดับ 20 ซึ่งบ่งชี้ถึงความวิตกของนักลงทุนและความผันผวนในตลาด
-- Challenger, Gray & Christmas ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการจ้างงานเปิดเผยว่า การประกาศเลิกจ้างพนักงานของภาคเอกชนในสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นในเดือนต.ค. เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ ปรับโครงสร้างพนักงานให้เหมาะสมกับยุคของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กำลังเติบโต ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในตลาดแรงงาน
Challenger ระบุว่า การปลดพนักงานในเดือนต.ค. มีจำนวนรวม 153,074 ตำแหน่ง เพิ่มขึ้นถึง 183% จากเดือนก.ย. และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 175% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดสำหรับเดือนต.ค. นับตั้งแต่ปี 2546
-- คณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) ของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติด้วยคะแนนเสียง 5-4 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.00% ในการประชุมเมื่อวานนี้ (6 พ.ย.) สวนทางกับการคาดการณ์ของตลาดที่ว่า BoE จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25%
กรรมการ MPC จำนวน 5 รายมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุม ขณะที่ 4 รายมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25%
-- แหล่งข่าวจากรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (7 พ.ย.) ว่า จีนได้กลับมานำเข้าสินค้าทะเลจากญี่ปุ่นอีกครั้ง หลังจากยกเลิกมาตรการห้ามนำเข้าที่ประกาศใช้ตั้งแต่เดือนส.ค. 2566 ภายหลังจากที่ญี่ปุ่นทำการปล่อยน้ำที่ผ่านการบำบัดจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะลงสู่ทะเล
พวกเขาระบุว่า หอยเชลล์แช่แข็งจากฮอกไกโดได้ถูกส่งออกไปยังจีน ซึ่งถือเป็นการจัดส่งสินค้าทางทะเลจากญี่ปุ่นไปจีนครั้งแรก นับตั้งแต่จีนยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าทั้งหมดในเดือนมิ.ย. และเริ่มดำเนินขั้นตอนทางศุลกากรอีกครั้ง
-- ข้อมูลและเหตุการณ์เศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ (7 พ.ย.) มีดังนี้:-
ญี่ปุ่นเปิดเผยการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือนก.ย.
จีนเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนต.ค. รวมถึงทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนต.ค.
เยอรมนีเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนก.ย.
ฝรั่งเศสเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนก.ย.
สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน, การคาดการณ์เงินเฟ้อเดือนต.ค. และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค.