ร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวของสหรัฐฯ มีความคืบหน้าครั้งสำคัญ และอาจทำให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง หลังจากกลุ่มสมาชิกพรรคเดโมแครตสายกลางได้ลงคะแนนสนับสนุนข้อตกลงเพื่อยุติการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์ ที่ยืดเยื้อเป็นเวลานานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ
วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ลงมติด้วยคะแนนเสียง 60 ต่อ 40 สนับสนุนร่างกฏมายงบประมาณชั่วคราว ในช่วงค่ำวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐฯ (9 พ.ย.) ซึ่งถือเป็นก้าวแรกในการทำข้อตกลงเพื่อยุติการชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ต.ค.
ภายใต้ข้อตกลงนี้ สภาคองเกรสจะผ่านร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณระยะเวลา 1 ปีเต็มให้กับกระทรวงเกษตร กระทรวงกิจการทหารผ่านศึก และสภาคองเกรสเอง ในขณะเดียวกันก็จะจัดสรรงบประมาณให้กับหน่วยงานอื่น ๆ จนถึงวันที่ 30 ม.ค. 2569 นอกจากนี้ ร่างกฎหมายฉบับนี้จะอนุญาตให้จ่ายเงินเดือนแก่พนักงานของรัฐบาลกลางที่ถูกสั่งให้หยุดงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง และจะดำเนินการให้รัฐบาลกลางสามารถจ่ายเงินให้กับรัฐต่าง ๆ และหน่วยงานท้องถิ่นที่ถูกระงับไปก่อนหน้านี้ อีกทั้งจะทำให้พนักงานของหน่วยงานรัฐที่ถูกเลิกจ้างในระหว่างการชัตดาวน์ สามารถกลับเข้าทำงานอีกครั้ง
อย่างไรก็ดี วุฒิสภายังไม่ได้กำหนดวันลงคะแนนเสียงสำหรับขั้นตอนสุดท้าย ในขณะที่สภาผู้แทนราษฎรก็จำเป็นต้องอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวฉบับนี้ ก่อนที่จะถูกส่งไปยังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อลงนาม
นอกจากนี้ ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าการปิดหน่วยงานจะยุติลงเร็วเพียงใด เนื่องจากสภาคองเกรสจะต้องได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกทั้งหมดในประเด็นยุติการปิดหน่วยงานอย่างรวดเร็ว โดยวุฒิสมาชิกคนใดคนหนึ่งมีโอกาสที่จะออกเสียงคัดค้านซึ่งจะทำให้ขั้นตอนดังกล่าวล่าช้าไปอีกหลายวัน
แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ข่าวความคืบหน้าของร่างงบประมาณชั่วคราวเป็นปัจจัยหนุนดัชนีฟิวเจอร์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยดัชนี S&P 500 ฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้น 0.7% และดัชนี Nasdaq 100 ฟิวเจอร์พุ่งขึ้น 1.1% ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเช่นกัน เนื่องจากมุมมองบวกที่ว่าการชัตดาวน์หน่วยงานของสหรัฐฯ ใกล้จะสิ้นสุดลงได้ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงอย่างคึกคัก