💥*"ปรินซ์ กรุ๊ป-เฉิน จื้อ" ยันไม่มีเอี่ยวสแกมเมอร์ หลังสื่อจีนแฉสหรัฐลักลอบแฮ็กบิตคอยน์

ปรินซ์ กรุ๊ป (Prince Group) ออกแถลงการณ์ปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อข้อกล่าวหาที่ระบุว่า บริษัทหรือนายเฉิน จื้อ ประธานบริษัท มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ ในแถลงการณ์ที่มีการเผยแพร่เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ปรินซ์ กรุ๊ป ระบุว่า 'บริษัทและประธานของเราขอปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงต่อข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยข้อกล่าวหาล่าสุดนี้ไม่มีมูลความจริง และมีเจตนาเพื่อสร้างความชอบธรรมให้แก่การยึดทรัพย์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมิชอบ ข้อกล่าวหาที่ไม่มีหลักฐานเหล่านี้ ซึ่งถูกขยายผลโดยสื่อที่รายงานซ้ำโดยไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้สร้างความเสียหายอย่างไม่เป็นธรรมต่อพนักงาน พันธมิตร และชุมชนจำนวนมากที่บริษัทให้บริการ'

แถลงการณ์ยังยืนยันว่า ปรินซ์ กรุ๊ป ยังคงยึดมั่นในหลักความซื่อสัตย์ การลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ และการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนทั่วภูมิภาค

'ตลอดเวลากว่าทศวรรษที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินงานอย่างโปร่งใสและเป็นไปตามกฎหมายทุกประการ ซึ่งจะปรากฏชัดเมื่อหลักฐานทั้งหมดถูกเปิดเผย เราได้ว่าจ้างทีมกฎหมายชั้นนำจากสำนักงาน Boies Schiller Flexner LLP และมั่นใจว่าเมื่อข้อเท็จจริงทั้งหมดถูกเปิดเผย ปรินซ์ กรุ๊ป และประธานของเราจะได้รับการพิสูจน์ว่าบริสุทธิ์'

ปรินซ์ กรุ๊ป ออกแถลงการณ์ดังกล่าว หลังสำนักข่าว Global Times ของจีนรายงานเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน โดยอ้างอิงข้อมูลจากศูนย์ตอบสนองเหตุฉุกเฉินไวรัสคอมพิวเตอร์แห่งชาติของจีน (CVERC) ที่ได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับกรณีที่รัฐบาลสหรัฐยึดบิตคอยน์จำนวนมหาศาล และตั้งข้อหาต่อนายเฉิน จื้อว่าเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังการฉ้อโกงทางคริปโทฯครั้งใหญ่

CVERC ระบุว่า นี่เป็นกรณีตัวอย่างของ "โจรปล้นโจร" ซึ่งจัดฉากโดยองค์กรแฮ็กระดับรัฐ

Global Times ระบุว่า รายงานของ CVERC ได้สร้างลำดับเหตุการณ์การโจรกรรมบิตคอยน์ขึ้นใหม่ทั้งหมด วิเคราะห์แต่ละขั้นตอนของการโจมตี และประเมินกลไกความปลอดภัยของบิตคอยน์

รายงานระบุว่า เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2563 ได้เกิดเหตุแฮ็กครั้งใหญ่ที่เหมืองขุดคริปโต LuBian ส่งผลให้มีการขโมยบิตคอยน์ประมาณ 127,272 เหรียญ (ขณะนั้นมีมูลค่าราว 3.5 พันล้านดอลลาร์ ปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 490,000 ล้านบาท) โดยเงินทุนดังกล่าวเป็นของนายเฉิน จื้อ

หลังเหตุการณ์แฮ็ก ปรินซ์ กรุ๊ปีและนายเฉิน จื้อ ได้โพสต์ข้อความหลายครั้งในช่วงต้นปี 2564 และเดือนกรกฎาคม 2565 เพื่อขอให้แฮ็กเกอร์คืนบิตคอยน์ที่ถูกขโมยไป พร้อมเสนอเงินตอบแทน แต่แฮ็กเกอร์ไม่ตอบกลับ

ปรินซ์ กรุ๊ป ระบุว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า เหรียญทั้งหมดถูกเก็บไว้ในกระเป๋าเงิน (wallet) ของผู้โจมตีเป็นเวลานานเกือบ 4 ปี โดยไม่มีการเคลื่อนไหว ซึ่งแตกต่างจากรูปแบบทั่วไปที่มักรีบขายทำกำไรทันที ทำให้เชื่อได้ว่าเป็น "ปฏิบัติการระดับรัฐที่มีความแม่นยำสูง"

ต่อมา ในเดือนมิถุนายน 2567 เหรียญที่ถูกขโมยจึงถูกย้ายไปยังกระเป๋าใหม่ และยังคงไม่ถูกแตะต้องอีกเลย

ในเดือนเดียวกัน บิตคอยน์เหล่านั้นถูกโอนเข้าสู่กระเป๋าปลายทางซึ่งถูกเครื่องมือติดตามบล็อกเชนชื่อดังของสหรัฐอย่าง ARKHAM ติดป้ายว่าเป็นทรัพย์สินของรัฐบาลสหรัฐ

สถานการณ์ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ยื่นฟ้องนายเฉิน จื้อ และอ้างว่ายึดบิตคอยน์จำนวน 127,000 เหรียญที่เชื่อมโยงกับเขาและปรินซ์ กรุ๊ป

หลักฐานบ่งชี้ว่าบิตคอยน์ที่รัฐบาลสหรัฐยึดได้นั้นตรงกับเหรียญที่ถูกแฮ็กจากเหมือง LuBian ตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งหมายความว่า รัฐบาลสหรัฐอาจเป็นผู้ขโมยบิตคอยน์ของนายเฉิน จื้อ จำนวน 127,000 เหรียญตั้งแต่ต้น

รายงานของ CVERC ระบุว่า ผลการสอบสวนเบื้องต้นขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ที่ระบุในคำฟ้องว่าทรัพย์สินทั้งหมดมีที่มาจากรายได้ผิดกฎหมาย

'ปรินซ์ กรุ๊ป ขอย้ำอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นในความซื่อสัตย์ การลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ และการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในภูมิภาค พร้อมยืนยันว่า ตลอดเวลากว่าทศวรรษที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินงานด้วยความโปร่งใส และเป็นไปตามมาตรฐานทางกฎหมายทุกประการ ซึ่งเชื่อว่าความจริงนี้จะปรากฏชัดเมื่อมีการเปิดเผยหลักฐานทั้งหมด' แถลงการณ์ระบุ