แบรนดอน บีช เหรัญญิกสหรัฐฯ ได้เดินทางเยือนโรงกษาปณ์ฟิลาเดลเฟียเมื่อวันพุธ (12 พ.ย.) เพื่อเป็นประธานในพิธีปั๊มเหรียญหนึ่งเซ็นต์ หรือ "เพนนี" สำหรับใช้หมุนเวียนจำนวน 5 เหรียญสุดท้าย เป็นการปิดฉากประวัติศาสตร์การผลิตเหรียญเพนนีในสหรัฐอเมริกาที่ดำเนินมาอย่างยาวนานถึง 232 ปี
ก่อนหน้านี้ในเดือนก.พ. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้มีคำสั่งให้กระทรวงการคลังยุติการผลิตเหรียญเพนนี เพราะเขามองเป็นเรื่องสิ้นเปลือง ส่งผลให้สถานีบริการน้ำมัน ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด และห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ต้องปรับราคาสินค้าและปัดเศษสำหรับธุรกรรมที่ชำระด้วยเงินสด
กระทรวงการคลังชี้แจงว่า ต้นทุนการผลิตที่พุ่งสูงขึ้น ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้การผลิตเหรียญเพนนีไม่คุ้มค่าในเชิงเศรษฐกิจ และไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป โดยระบุว่าต้นทุนการผลิตเหรียญเพนนีแต่ละเหรียญอยู่ที่ 3.69 เซ็นต์ ซึ่งสูงกว่ามูลค่าหน้าเหรียญ และเพิ่มขึ้นจาก 1.42 เซ็นต์เมื่อสิบปีก่อน
เจ้าหน้าที่โรงกษาปณ์เปิดเผยว่า การผลิตเหรียญเพนนีสำหรับหมุนเวียนได้ถูกระงับไปเมื่อหลายเดือนก่อน แต่ยังมีการผลิตเหรียญรุ่นพิเศษเพิ่มเติม โดยประทับสัญลักษณ์ "โอเมกา" (Omega) ซึ่งเป็นอักษรกรีกตัวสุดท้าย เพื่อเป็นเครื่องหมายว่าเป็นเหรียญรุ่นสุดท้ายของสายการผลิต และจะถูกนำออกประมูลในเดือนธ.ค.
โรเบิร์ต เคอร์ซินา ผู้อำนวยการโรงกษาปณ์ฟิลาเดลเฟีย กล่าวว่า เหรียญเพนนี 5 เหรียญที่ถูกปั๊มขึ้นในพิธี จะเป็นส่วนหนึ่งของเหรียญชุดประมูลนี้ ซึ่งรายละเอียดจะมีการประกาศในเร็ว ๆ นี้ โดยเหรียญเหล่านี้ยังสามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย แตกต่างจากเหรียญกษาปณ์สำหรับนักสะสมที่มีความเงางามและกระบวนการผลิตที่แตกต่างกัน
กระทรวงการคลังคาดว่า การยุติการผลิตเหรียญเพนนีจะช่วยให้โรงกษาปณ์ประหยัดงบประมาณได้ราว 56 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ทั้งนี้ เหรียญเพนนีจะยังคงสถานะเป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย โดยคาดว่ามีเหรียญหมุนเวียนอยู่ในระบบประมาณ 3 แสนล้านเหรียญ ซึ่งเป็นจำนวนที่เกินความจำเป็นสำหรับภาคการพาณิชย์อย่างมหาศาล
สหรัฐอเมริกากำลังดำเนินรอยตามหลายประเทศ เช่น แคนาดา ออสเตรเลีย ไอร์แลนด์ และนิวซีแลนด์ ในการทยอยเลิกใช้เหรียญที่มีมูลค่าต่ำที่สุด โดยจะปัดเศษธุรกรรมเงินสดขึ้นหรือลง 5 เซ็นต์ที่ใกล้เคียงที่สุด ขณะที่การชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์จะยังคงเป็นยอดเงินที่แน่นอน
สำหรับเหรียญเพนนีนั้น รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกใช้เป็นครั้งแรกในปี 2336 และนับตั้งแต่ปี 2452 เป็นต้นมา ด้านหน้าของเหรียญได้ประดับด้วยรูปด้านข้างของประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น
ข้อมูลระบุว่า ในปีงบประมาณ 2567 เหรียญเพนนีคิดเป็นสัดส่วนถึง 57% หรือ 3.2 พันล้านเหรียญ จากยอดการผลิตเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนทั้งหมดของโรงกษาปณ์ที่ 5.61 พันล้านเหรียญ โดยโรงกษาปณ์จะยังคงผลิตเหรียญเพนนีในรูปแบบสำหรับนักสะสมต่อไปในปริมาณจำกัด
อนึ่ง กลุ่มผู้สนับสนุนให้เหรียญเพนนีคงอยู่ต่อไปโต้แย้งว่า เหรียญนี้ช่วยรักษาระดับราคาสินค้าให้ไม่สูงขึ้น และยังเป็นแหล่งรายได้สำคัญขององค์กรการกุศลต่าง ๆ แต่สำหรับชาวอเมริกันจำนวนมาก เหรียญนี้ได้กลายเป็นของจุกจิกไปแล้ว