ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก เปิดเผยผลการศึกษาฉบับใหม่ที่ระบุว่า การลดลงอย่างมีนัยสำคัญของจำนวนผู้อพยพเข้าสหรัฐฯ อาจทำให้กำลังแรงงานในตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ขยายตัวช้าลง หรืออาจหดตัวในช่วงหลายปีข้างหน้า
รายงานของเฟดสาขาซานฟรานซิสโกประเมินว่า มีผู้อพยพเข้ามายังสหรัฐ ราว 515,000 คนในปีนี้ ลดลงอย่างมากจากประมาณ 2 ล้านคนในปี 2567 โดยการลดลงส่วนใหญ่เกิดจากผู้อพยพผิดกฎหมายที่มีจำนวนลดลง และอัตราการย้ายออกนอกประเทศที่สูงขึ้นเล็กน้อย นอกจากนี้ รายงานของเฟดยังประมาณการว่า มีการเนรเทศผู้คนจากพื้นที่ชั้นในของสหรัฐฯ ประมาณ 285,000 คนในปีนี้
นักวิจัยของเฟดระบุในรายงานว่า การลดลงจำนวนผู้อพยพในปี 2568 ทำให้เกิดความกังวลว่า ประชากรวัยทำงานของสหรัฐฯ อาจปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะฉุดรั้งการการเติบโตของแรงงาน หรืออาจจะถึงขั้นติดลบในช่วงหลายปีข้างหน้า ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวไม่เพียงอาจทำให้จำนวนแรงงานลดลงเท่านั้น แต่ยังอาจฉุดอุปสงค์ในระบบเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากจำนวนผู้บริโภคที่ลดน้อยลง
นอกจากนี้ รายงานของเฟดสาขาซานฟรานซิสโกยังระบุว่า หากไม่มีแรงหนุนจากผู้อพยพ ประชากรวัยทำงานของสหรัฐฯ น่าจะเริ่มลดลงมาตั้งแต่ปี 2555 และคาดว่าจำนวนชาวอเมริกันที่อายุครบ 16 ปีจะลดลงต่อเนื่องไปจนถึงปี 2583 ขณะที่จำนวนประชากรที่เข้าสู่วัย 65 ปีจะพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ มาตรการกวาดล้างผู้อพยพของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงการเนรเทศที่เข้มงวดยิ่งขึ้นนั้น ส่งผลให้นักเศรษฐศาสตร์ประเมินผลกระทบต่อแรงงานได้ยากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อข้อมูลการบังคับใช้กฎหมายไม่ชัดเจน และรายงานเศรษฐกิจบางส่วนล่าช้าจากภาวะชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาล