ผู้นำประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่ม 20 (G20) ครั้งที่ 20 ได้บรรลุฉันทามติเกี่ยวกับความสามารถในการฟื้นตัวจากภัยพิบัติ ความยั่งยืนของหนี้ การเปลี่ยนผ่านพลังงานที่เป็นธรรม และแร่ธาตุสำคัญ รวมทั้งรับรองปฏิญญาผู้นำการประชุมสุดยอด G20 ซึ่งจัดขึ้นที่แอฟริกาใต้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การประกาศการรับรองปฏิญญาดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเปิดการประชุมสุดยอด ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นในทวีปแอฟริกา การประชุมระยะเวลา 2 วันที่เมืองโจฮันเนสเบิร์กนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "ความสามัคคี ความเท่าเทียม และความยั่งยืน"
เนื้อหาในปฏิญญาเตือนว่า ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและรุนแรงมากขึ้นกำลังบ่อนทำลายการพัฒนา และทำให้ระบบการตอบสนองเกินขีดความสามารถ ผู้นำระบุว่า แรงกระแทกนี้ขัดขวางความก้าวหน้าสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน และสร้างความตึงเครียดต่อทั้งขีดความสามารถของประเทศและความสามารถในการตอบสนองของระบบการดำเนินการระหว่างประเทศ
ผู้เข้าร่วมประชุมได้เรียกร้องแนวทางแบบบูรณาการที่เน้นผู้คนเป็นศูนย์กลาง และเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเสริมสร้างความสามารถในการฟื้นตัวจากภัยพิบัติและการตอบสนอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นเกาะเล็กๆ ที่เปราะบางและประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด
การเข้าถึงพลังงานและการเปลี่ยนผ่านถูกเน้นย้ำอย่างเด่นชัด โดยปฏิญญาเน้นถึงความไม่เท่าเทียมที่หนักหนาสาหัส โดยระบุว่า "ชาวแอฟริกันกว่า 600 ล้านคนไม่สามารถเข้าถึงไฟฟ้า"
ผู้นำต่างสนับสนุนความพยายามในการเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกเป็นสามเท่า และเพิ่มการปรับปรุงประสิทธิภาพพลังงานเป็นสองเท่าภายในปี 2583 และเน้นย้ำถึงความเร่งด่วนในการระดมการลงทุนที่เพิ่มขึ้นและอำนวยความสะดวกในการจัดหาเงินทุนต้นทุนต่ำสำหรับประเทศกำลังพัฒนาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของประเทศ และยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการถ่ายทอดเทคโนโลยีแบบสมัครใจภายใต้เงื่อนไขที่ตกลงร่วมกัน
สำหรับแร่ธาตุที่สำคัญนั้น ที่ประชุม G20 ได้รับรองกรอบเรื่องแร่ธาตุสำคัญ โดยอธิบายว่าเป็นแนวทางแบบสมัครใจสำหรับห่วงโซ่คุณค่าแร่ธาตุสำคัญที่ยั่งยืน โปร่งใส มั่นคง และยืดหยุ่น ซึ่งเป็นรากฐานของอุตสาหกรรมและการพัฒนาที่ยั่งยืน
ปฏิญญายังเน้นด้วยว่าทรัพยากรแร่ธาตุควรทำหน้าที่เป็นตัวเร่งสำหรับการเพิ่มมูลค่าและการพัฒนาบนพื้นฐานที่กว้างขวาง มากกว่าการส่งออกวัตถุดิบเพียงอย่างเดียว โดยยืนยันสิทธิของประเทศผู้ผลิตในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรของตน เพื่อการเติบโตที่ครอบคลุม
ทั้งนี้ ปฏิญญาผู้นำสะท้อนถึงการยอมรับร่วมกันว่าความท้าทายระดับโลกต้องการแนวทางที่มีการประสานงานและเป็นธรรมมากขึ้น