จีนรุกจีบเยอรมนีร่วมมืออุตสาหกรรมสำคัญ คลายขัดแย้งปมแร่หายาก

ข่าวต่างประเทศ Monday November 24, 2025 17:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

จีนเปิดเกมรุกกระชับความสัมพันธ์กับรัฐบาลใหม่ของเยอรมนีในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีของสองประเทศพบปะหารือกัน โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้เกิดขึ้นในขณะที่เยอรมนีกำลังพยายามหาทางลดความตึงเครียดจากมาตรการจำกัดการส่งออกแร่หายากของจีน ซึ่งกำลังบีบคั้นบรรดาผู้ผลิตเยอรมันจนนำไปสู่กระแสเรียกร้องให้ภาคธุรกิจลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาจีนมากเกินไป

ท่าทีดังกล่าวของจีนที่มีต่อเยอรมนี ซึ่งเป็นคู่ค้าเบอร์หนึ่งของจีนในยุโรป พลิกกลับอย่างรวดเร็วผิดไปจากก่อนหน้านี้ที่ความขัดแย้งเรื่องมาตรการจำกัดการส่งออกชิปและแร่หายากเคยทำให้โยฮันน์ วาเดฟูล รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี ตัดสินใจยกเลิกกำหนดการเยือนจีนเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา

"จีนและเยอรมนีถือเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจและการค้าที่สำคัญยิ่ง" หลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวกับ ฟรีดริช แมร์ซ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ระหว่างการหารือนอกรอบในการประชุมสุดยอด G20 ที่เมืองโจฮันเนสเบิร์ก เมื่อวันอาทิตย์ (23 พ.ย.)

การพบปะของผู้นำทั้งสองแทบเป็นไปไม่ได้เมื่อไม่กี่เดือนก่อน แต่เมื่อทั้งคู่ต่างได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน และต่างฝ่ายต่างต้องหาทางลดการพึ่งพาสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ความขัดแย้งเดิมจึงถูกพักไว้ก่อน

สำนักข่าวซินหัวรายงานคำกล่าวของหลี่ที่ระบุว่า "รัฐบาลของเราทั้งสองควรทำงานร่วมกันเพื่อเสริมสร้างการเจรจาและการสื่อสาร เพื่อจัดการข้อกังวลของแต่ละฝ่ายอย่างเหมาะสม"

ซินหัวระบุด้วยว่า หลี่เสนอให้มีความร่วมมือใกล้ชิดยิ่งขึ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ โดยจีนพร้อมจับมือเยอรมนีคว้าโอกาสใน "สาขาแห่งอนาคต เช่น พลังงานใหม่ การผลิตอัจฉริยะ ชีวการแพทย์ เทคโนโลยีพลังงานไฮโดรเจน และระบบขับขี่อัจฉริยะ"

แม้ฝั่งเยอรมนียังไม่เปิดเผยรายละเอียดการหารือ แต่สื่อจีนรายงานว่า แมร์ซได้เน้นย้ำจุดยืนของเยอรมนีเรื่องความเปิดกว้างและการค้าเสรี โดยมองว่าแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 15 ของจีน จะสร้างโอกาสแก่เยอรมนีและสหภาพยุโรป (EU) พร้อมระบุว่าทั้งสองชาติคือ "ผู้ได้รับประโยชน์และผู้สนับสนุนโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ"

หลังจากนี้ แมร์ซมีกำหนดเยือนจีนในเร็ว ๆ นี้ เพื่อพบหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งเคยโทรศัพท์สายตรงคุยกันเมื่อเดือนพ.ค. เพื่อกำหนดทิศทางความสัมพันธ์ ขณะที่โยฮันน์ วาเดฟูล ได้ตกลงกับ หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนเมื่อต้นเดือน ว่าจะกำหนดวันเยือนกรุงปักกิ่งใหม่อีกครั้ง

ความเคลื่อนไหวนี้นับเป็นการสานต่อบรรยากาศเชิงบวก หลังจาก ลาร์ส คลิงไบล์ รัฐมนตรีคลังเยอรมนี เพิ่งพบกับเหอ ลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีนเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งทั้งสองฝ่ายระบุว่ามีความคืบหน้าในการก้าวข้ามความตึงเครียดทางการค้า

หลี่กล่าวกับแมร์ซว่า เขา "หวังให้เยอรมนีคงนโยบายต่อจีนอย่างมีเหตุผลและอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง พร้อมทั้งขจัดแรงกดดันหรือการแทรกแซงต่าง ๆ" นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้เยอรมนีช่วยผลักดันให้ EU มองความสัมพันธ์กับจีนด้วย "วิสัยทัศน์ที่กว้างไกล" ในวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตในปีนี้

แม้จะมีปมขัดแย้งเรื่องจีนสนับสนุนรัสเซีย และปฏิบัติการทางทหารในอินโด-แปซิฟิก ตลอดจนประเด็นสิทธิมนุษยชนและนโยบายรัฐอุดหนุนอุตสาหกรรม แต่สายสัมพันธ์ทางการค้ามูลค่ามหาศาลยังคงเป็นตัวเชื่อมทั้งสองประเทศไว้

ข้อมูลจากจีนชี้ว่า ปีที่ผ่านมาจีนนำเข้าสินค้าเยอรมนีเป็นมูลค่า 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งราว 12% เป็นรถยนต์ ทำให้จีนยังคงเป็น 1 ใน 10 คู่ค้าสำคัญของเยอรมนี ขณะที่เยอรมนีนำเข้าสินค้าจีนมูลค่า 1.07 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนใหญ่เป็นชิปและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

สถาบัน Mercator Institute for China Studies เผยข้อมูลว่า ในปี 2567 เยอรมนียังคงเป็นนักลงทุนรายใหญ่ของจีน ด้วยเม็ดเงินลงทุนใหม่ถึง 6.6 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วนถึง 45% ของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) จาก EU และสหราชอาณาจักร

สำหรับเยอรมนี จีนคือตลาดรถยนต์ที่แทบไม่มีใครแทนที่ได้ โดยยอดขายเกือบ 1 ใน 3 ของค่ายรถเยอรมนีมาจากจีน เช่นเดียวกับบริษัทยาและเคมีภัณฑ์ที่มีฐานธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศจีน แม้จะต้องเผชิญการแข่งขันที่ดุเดือดขึ้นจากคู่แข่งเจ้าถิ่นก็ตาม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ