หนังสือพิมพ์คอมเมอร์เชียลไทม์สของไต้หวันรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของ กง หมิงซิน รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของไต้หวันว่า ไต้หวันอาจกลับมาเดินเครื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งหนึ่งในปี 2571 หากการตรวจสอบความปลอดภัยดำเนินไปอย่างราบรื่น โดยการเปิดเผยดังกล่าวนับเป็นอีกสัญญาณที่บ่งชี้ว่าไต้หวันอาจจะกลับลำนโยบาย จากเดิมที่เคยต่อต้านนิวเคลียร์
รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจยังกล่าวด้วยว่า ขั้นตอนการเดินเครื่องใหม่สำหรับโรงไฟฟ้าหม่าอันชาน (Maanshan) อาจเริ่มขึ้นในช่วงต้นปี 2571 หากผ่านการตรวจสอบความปลอดภัย พร้อมกับกล่าวว่าแผนการเดินเครื่องใหม่นั้นมีความละเอียดรอบคอบและแข็งแกร่ง
กระทรวงเศรษฐกิจระบุในแถลงการณ์ว่า รัฐบาลไต้หวันได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะร่างข้อเสนอเพื่อเดินเครื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 2 แห่งอีกครั้ง ซึ่งรวมถึงโรงไฟฟ้าหม่าอันชาน โดยคาดว่าบริษัทไต้หวัน พาวเวอร์ โค (Taiwan Power Co.) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้า จะยื่นแผนการเดินเครื่องใหม่สำหรับโรงไฟฟ้าเหล่านั้นภายในเดือนมี.ค. ปีหน้า
รายงานระบุว่า ไต้หวันตัดสินใจยกเลิกการใช้พลังงานนิวเคลียร์ในปี 2559 และได้ปิดโรงไฟฟ้าแห่งสุดท้ายจาก 3 แห่ง คือโรงไฟฟ้าหม่าอันชานไปเมื่อเดือนพ.ค.ปีนี้ แต่การที่ไต้หวันกำลังพิจารณากลับมาเดินเครื่องอีกครั้ง สะท้อนให้เห็นว่าไต้หวันอาจจะกลับลำด้านนโยบายนิวเคลียร์ นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวเพื่อกลับมาเปิดโรงไฟฟ้าอีกครั้งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังผลักดันให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้น และเกิดขึ้นในขณะที่พลังงานนิวเคลียร์กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั่วโลก เนื่องจากบริษัทและรัฐบาลของประเทศต่าง ๆ ต้องการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน
พลังงานนิวเคลียร์ดูเหมือนจะได้รับการยอมรับจากชาวไต้หวันมากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยผู้มีสิทธิเลือกตั้งประมาณ 3 ใน 4 สนับสนุนการเปิดโรงไฟฟ้าหม่าอันชานอีกครั้งในการลงประชามติเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา แต่ผลการลงมติดังกล่าวถูกยกเลิกเนื่องจากมีผู้มาใช้สิทธิน้อย นอกจากนี้ ฝ่ายนิติบัญญัติของไต้หวันได้ทำการแก้ไขร่างกฎหมายเพื่อให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์สามารถขยายใบอนุญาตได้ ซึ่งเป็นการเปิดทางให้มีการกลับมาเดินเครื่องโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์อีกครั้ง
ทั้งนี้ เกาะไต้หวันเป็นที่ตั้งของผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดในโลกหลายรายซึ่งต่างก็มีความต้องการไฟฟ้าสะอาดและมีเสถียรภาพเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันมีรายงานว่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เช่นไมโครซอฟท์ คอร์ป (Microsoft Corp.) และกูเกิล (Google) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของอัลฟาเบท อิงค์ (Alphabet Inc.) จะลงนามในข้อตกลงเพื่อจัดหาพลังงานนิวเคลียร์เพื่อป้อนศูนย์ข้อมูลของบริษัทซึ่งต้องใช้พลังงานสูง