สถานีโทรทัศน์ CCTV ของรัฐบาลจีนรายงานว่า ประมาณ 40% ของเที่ยวบินที่มีกำหนดเดินทางจากจีนไปยังญี่ปุ่นในเดือนธ.ค.ได้ถูกยกเลิกแล้ว ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าข้อพิพาทระหว่างจีนและญี่ปุ่นที่ทวีความรุนแรงขึ้นนั้น กำลังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการเดินทางทางอากาศ
ความตึงเครียดครั้งล่าสุดระหว่างสองประเทศเกิดขึ้นนับตั้งแต่ ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้กล่าวต่อรัฐสภาญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 7 พ.ย. ว่า หากจีนทำการโจมตีไต้หวัน ก็อาจเป็นภัยคุกคามการอยู่รอดของญี่ปุ่น และอาจนำไปสู่การตอบโต้ทางทหาร ขณะที่รัฐบาลจีนเตือนญี่ปุ่นไม่ให้แทรกแซงกรณีไต้หวัน และเตือนพลเมืองของจีนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคำเตือนดังกล่าวได้ผลักดันให้สายการบินต่าง ๆ ของจีนนำเสนอการยกเลิกเที่ยวบินและการเดินทางโดยไม่คิดค่าธรรมเนียมจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.ปีนี้
CCTV รายงานโดยอ้างข้อมูลจากแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ไม่ระบุชื่อว่า จำนวนการยกเลิกเที่ยวบินในขณะนี้พุ่งสูงกว่า 1,900 เที่ยวแล้ว ขณะที่ข้อมูลจากฐานข้อมูลตารางการบิน AeroRoutes ระบุว่า เมืองซัปโปโรและโอซาก้าของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเมืองที่ต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวอย่างมากนั้น ได้ลดการบริการเที่ยวบินไปยังจีนมากที่สุดเมื่อพิจารณาเป็นเปอร์เซ็นต์
การที่สายการบินของจีนได้ลดการให้บริการเที่ยวบินไปยังญี่ปุ่นนั้น ได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่ภาคส่วนที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจที่กำลังหดตัว เนื่องจากจีนแผ่นดินใหญ่ถือเป็นแหล่งรายได้การท่องเที่ยวจากต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น โดยสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้ญี่ปุ่นสูญเสียรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนเงินสูงถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์ในระหว่างเดือนพ.ย.จนถึงสิ้นปีนี้
สื่อต่างประเทศรายงานในเดือนพ.ย.ว่า จีนได้แจ้งให้สายการบินในประเทศลดจำนวนเที่ยวบินไปยังญี่ปุ่นจนถึงเดือนมี.ค. 2569 ซึ่งเป็นสัญญาณว่ารัฐบาลจีนเตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบที่เกิดจากข้อพิพาทที่ยืดเยื้อกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างญี่ปุ่น