นักเศรษฐศาสตร์จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจเกาหลีใต้เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว แต่แรงกดดันที่อาจทำให้เศรษฐกิจเผชิญภาวะขาลง ยังคงเป็นความท้าทายต่อเศรษฐกิจเกาหลีใต้ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเอเชีย ขณะเดียวกันคาดว่าเศรษฐกิจในหลายประเทศของเอเชียจะชะลอตัวเพียงเล็กน้อยในปีหน้า
การประเมินล่าสุดนี้ มีขึ้นในระหว่างการประชุมประจำปีที่ร่วมเป็นเจ้าภาพโดยสถาบันนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศแห่งเกาหลี (KIEP) และ IMF ซึ่งจัดขึ้นในกรุงโซล ภายใต้หัวข้อ "Buffered Slowdown amid an Asymmetric World"
สถาบัน KIEP ระบุว่า การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงความตึงเครียดทางการค้าที่ยืดเยื้อ การปรับนโยบายการเงินให้เป็นปกติในประเทศที่สำคัญ และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ขณะเดียวกันก็มีการหารือเกี่ยวกับทิศทางนโยบายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ในระหว่างการประชุม ซาคาอิ อันโด นักเศรษฐศาสตร์ฝ่ายกิจการเอเชียและแปซิฟิกของ IMF คาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของเอเชียจะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปจาก 4.5% ในปี 2568 มาอยู่ที่ระดับ 4.1% ในปี 2569
ส่วนเศรษฐกิจเกาหลีใต้นั้น IMF คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 0.9% ในปีนี้ และขยายตัว 1.8% ในปีหน้า โดยอันโดกล่าวว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ในช่วงครึ่งปีแรกจะเป็นไปอย่างยืดหยุ่น แม้จะเผชิญกับผลกระทบทางการค้า โดยจะมีปัจจัยหนุนที่เกินความคาดหมาย ซึ่งรวมถึงการส่งออกที่แข็งแกร่ง การผ่อนคลายนโยบายการเงิน และวงจรทางเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของเกาหลีใต้
อย่างไรก็ดี อันโดได้ระบุถึงความเสี่ยงใหญ่ในระดับภูมิภาค ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าและภาษีอย่างกะทันหัน ความสามารถทางการคลังที่ลดลงในการรับมือกับวิกฤตการณ์ ตลอดจนการลงทุนที่กระจุกตัวอยู่ในเทคโนโลยี เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และความปั่นป่วนในตลาดการเงินที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้อาจจะเป็นปัจจัยขัดขวางการลงทุน
นักเศรษฐศาสตร์รายนี้ของ IMF ยังระบุว่า การดำเนินนโยบายผ่อนคลายการเงินถือเป็นแนวทางที่เหมาะสมในประเทศส่วนใหญ่ ซึ่งรวมถึงเกาหลีใต้ พร้อมกับย้ำว่า การสนับสนุนทางการคลังควรมีความยั่งยืนและได้รับการผลักดันโดยการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง