รัฐบาลทรัมป์เตรียมเปิดตัวแพ็คเกจช่วยเหลือเกษตรกรครั้งใหญ่ วงเงิน 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ หวังลดแรงกดดันจากฐานเสียงหลักที่กำลังบอบช้ำจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำและผลกระทบของสงครามการค้า
แหล่งข่าวจากทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ในวันจันทร์นี้ (8 ธ.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีกำหนดแถลงเปิดตัวโครงการดังกล่าวที่กรุงวอชิงตัน ในเวลาประมาณ 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยจะมีสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และบรูค โรลลินส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร พร้อมด้วยตัวแทนเกษตรกรหลากหลายกลุ่ม ทั้งผู้ปลูกข้าวโพด ฝ้าย ถั่วเหลือง และปศุสัตว์ เข้าร่วมรับฟัง
เจ้าหน้าที่ระดับสูงระบุว่า งบประมาณก้อนนี้ได้รับอนุมัติภายใต้กฎหมาย Commodity Credit Corporation Charter Act บริหารจัดการโดยหน่วยงาน Farm Service Agency (FSA) โดยแบ่งออกเป็นเงินช่วยเหลือแบบให้เปล่าครั้งเดียว วงเงิน 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ จ่ายตรงให้เกษตรกรผ่านโครงการใหม่ที่ชื่อว่า "Farmer Bridge Assistance" (FBA) และส่วนที่เหลืออีก 1 พันล้านดอลลาร์จะเป็นเงินสำรองสำหรับพืชผลชนิดอื่นที่ไม่อยู่ในเงื่อนไขของ FBA
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางความไม่พอใจของเกษตรกร ซึ่งเป็นฐานเสียงสำคัญที่โหวตให้ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งเมื่อปี 2567 เนื่องจากมาตรการกำแพงภาษีที่เข้มข้นขึ้นส่งผลให้จีนตอบโต้ด้วยการจำกัดการนำเข้าสินค้าเกษตรสหรัฐฯ เมื่อต้นปี ทำให้ตลาดส่งออกซบเซา
สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้สมาชิกสภานิติบัญญัติพรรครีพับลิกันเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาปากท้อง ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งกลางเทอมในปีหน้า แม้ก่อนหน้านี้ในเดือนมี.ค. กระทรวงเกษตรฯ จะเคยอนุมัติงบ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ไปแล้ว แต่ราคาพืชผลในปัจจุบันยังคงตกต่ำใกล้เคียงระดับปี 2563 สวนทางกับต้นทุนปุ๋ยและการผลิตที่พุ่งสูงขึ้น
แม้ทรัมป์จะบรรลุข้อตกลงกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เมื่อปลายเดือนต.ค. ส่งผลให้ยอดสั่งซื้อถั่วเหลืองกระเตื้องขึ้น โดยมียอดขายสะสมตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค. อยู่ที่ 2.25 ล้านตัน แต่ตัวเลขนี้ยังห่างไกลจากเป้าหมาย 12 ล้านตันที่กำหนดส่งมอบภายในสิ้นเดือนก.พ.
อย่างไรก็ตาม เจมีสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า จีนกำลังปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลงการค้า โดยขณะนี้ปักกิ่งรับซื้อถั่วเหลืองสำหรับฤดูกาลนี้ไปแล้วราว 1 ใน 3 ของข้อผูกพัน สอดคล้องกับที่เบสเซนต์ระบุว่าจีนน่าจะทำยอดได้ตามเป้า
นโยบายนี้คล้ายคลึงกับมาตรการในสมัยแรกของทรัมป์ (พ.ศ. 2561-2562) ที่เคยอัดฉีดงบ 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์เยียวยาเกษตรกร นักวิเคราะห์มองว่าแม้เงินช่วยเหลือจะช่วยต่อลมหายใจในระยะสั้น แต่ผลพวงจากสงครามการค้าได้สร้างความเสียหายระยะยาว ทำให้จีนหันไปพึ่งพาการนำเข้าถั่วเหลืองจากบราซิลแทนสหรัฐฯ มากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังใช้โอกาสนี้วิพากษ์วิจารณ์อดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ว่าล้มเหลวในการบังคับใช้ข้อตกลงการค้าระยะที่ 1 (Phase One) ซึ่งเคยเจรจาไว้ในสมัยรัฐบาลทรัมป์ชุดก่อนอีกด้วย