สปป.ลาว กำลังเดินหน้าเตรียมการเพื่อเปลี่ยนสถานะจากการเป็นประเทศพัฒนาน้อยที่สุด (Least Developed Country - LDC) โดยตั้งเป้าช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านในระหว่างปี 2569-2572
ทองผ่าน สะหวันเพ็ด เอกอัครราชทูตและผู้แทนถาวรของสปป.ลาว ประจำสหประชาชาติ (UN) ยืนยันระหว่างการประชุมสหประชาชาติ ณ กรุงโดฮา เมื่อวันที่ 2-4 ธ.ค.ว่า รัฐบาลกำลังสรุปรายงานการประเมินความพร้อมเพื่อสนับสนุนกระบวนการเปลี่ยนผ่านดังกล่าว
นายทองผ่านกล่าวว่า รัฐบาลลาวได้จัดทำยุทธศาสตร์การเปลี่ยนผ่านที่ราบรื่น (Smooth Transition Strategy) แล้วเสร็จในปี 2566 ตลอดจนผ่านเกณฑ์ทั้ง 3 ข้อสำหรับการหลุดพ้นสถานะ LDC โดยสปป.ลาวได้ผ่านเกณฑ์รายได้มวลรวมประชาชาติต่อประชากร (GNI per capita), ดัชนีทุนมนุษย์ (Human Assets Index) และดัชนีความเปราะบางทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม (Economic and Environmental Vulnerability Index) ในปี 2561, 2564 และ 2567 ตามลำดับ
เขาเสริมว่า GNI ต่อประชากรคาดว่าจะแตะที่ประมาณ 1,985 ดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งทำให้ลาวอยู่เหนือเกณฑ์มาตรฐานของ UN อย่างมาก ขณะเดียวกัน การพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านสุขภาพและการศึกษาได้ช่วยยกระดับดัชนีทุนมนุษย์ ส่วนการประเมินความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศและเศรษฐกิจล่าสุดก็แสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าที่สำคัญในดัชนีความเปราะบางฯ
อย่างไรก็ตาม นายทองผ่านเตือนว่า ช่วงเวลาหลังการเปลี่ยนผ่านสถานะอาจมีความท้าทาย เนื่องจากความช่วยเหลือจากนานาชาติจะลดลง ทำให้สปป.ลาวเผชิญกับความผันผวนทางเศรษฐกิจ ความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศ และการเปลี่ยนแปลงของโลกในด้านการค้าและเทคโนโลยี ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความก้าวหน้าที่สปป.ลาวทำได้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
แต่เดิม ลาวเคยวางแผนที่จะหลุดพ้นจากสถานะ LDC ภายในปี 2563 อย่างไรก็ดี เป้าหมายดังกล่าวได้ถูกเลื่อนออกไปเป็นปี 2567 และล่าสุดได้ถูกเลื่อนออกไปเป็นระหว่างปี 2569-2572 เพื่อให้มีเวลาเตรียมความพร้อมและการเปลี่ยนผ่านที่ราบรื่นยิ่งขึ้น