เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) เรียกร้องให้ทางการจีนเร่งขยายตลาดทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาสภาพคล่องของผู้พัฒนาโครงการ และรองรับความต้องการลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังเผชิญแรงกดดัน
ข้อเสนอของ CSRC เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดครั้งใหม่ โดย Vanke หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีน กำลังยื่นขอเลื่อนการชำระหนี้หุ้นกู้ 2 ฉบับ ซึ่งสะท้อนปัญหาสภาพคล่องในภาคอสังหาฯ ที่ยังยืดเยื้อ ทางการจีนจึงต้องการขยายตลาด REIT ให้มีบทบาทมากขึ้นเพื่อช่วยพยุงเสถียรภาพของอุตสาหกรรม
ในบทความที่เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์เซี่ยงไฮ้ซิเคียวริตีส์นิวส์ ซึ่งเป็นสื่อของทางการจีน หาน โจว หัวหน้าฝ่ายกำกับดูแลตราสารหนี้ และเจียง เจ๋อ หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของ CSRC ระบุว่า จีนควรอนุญาตให้ทรัพย์สินเชิงพาณิชย์เข้าจดทะเบียนเป็น REIT ได้โดยเร็ว โดยมองว่าจะเป็นการสนับสนุนรูปแบบการเติบโตใหม่ของผู้พัฒนาอสังหาฯ พร้อมทั้งเสนอให้เร่งจัดหาโครงการคุณภาพสูง ตลอดจนลดต้นทุนค่าเสียโอกาสและเวลาในการออก REIT
ข้อเรียกร้องนี้เกิดขึ้นหลัง CSRC เพิ่งเปิดร่างกฎเกณฑ์สำหรับโครงการนำร่อง REIT เชิงพาณิชย์เมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน ซึ่งจะเปิดทางให้สินทรัพย์ประเภทโรงแรม อาคารสำนักงาน และสนามกีฬาเข้าจดทะเบียนได้ ขณะที่ในปัจจุบันสินทรัพย์ที่เข้าเกณฑ์ส่วนใหญ่ยังจำกัดอยู่ในกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน เช่น นิคมอุตสาหกรรม ทางด่วน ศูนย์โลจิสติกส์ และศูนย์ข้อมูล
บทความชี้ว่า หากโครงการ REIT เชิงพาณิชย์เริ่มเดินหน้าได้เร็ว จะช่วยลดภาระหนี้ของผู้พัฒนา และสร้างเสถียรภาพให้กับความเชื่อมั่นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยจีนซึ่งกำลังมุ่งขยายตลาด REIT ประเมินว่ามูลค่าตลาดปัจจุบันราว 2.2 แสนล้านหยวน (3.12 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ยังมีโอกาสเติบโตได้ถึง 7.5 ล้านล้านหยวน
บทความระบุว่า REIT มีบทบาทช่วยเปลี่ยนสินทรัพย์ที่ไม่ก่อรายได้ให้กลายเป็นหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่อง ใช้เป็นตัวกำหนดราคา และช่วยปลดล็อกเงินทุนเพื่อนำไปลงทุนใหม่ ขณะที่ความต้องการลงทุนใน REIT กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สอดคล้องกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยแบบปราศจากความเสี่ยงที่ยังคงลดลงต่อเนื่องในจีน