วุฒิสภาเม็กซิโกลงมติรับรองร่างกฎหมายเพื่อเก็บภาษีสินค้านำเข้าตั้งแต่ 5-50% จากประเทศต่าง ๆ ในเอเชียที่ไม่มีข้อตกลงการค้ากับเม็กซิโก โดยพุ่งเป้าไปที่สินค้าจีนเป็นหลัก ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ
ร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับคะแนนเห็นชอบ 76 เสียง คัดค้าน 5 เสียง และงดออกเสียง 35 เสียง โดยอัตราภาษีใหม่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป ครอบคลุมผลิตภัณฑ์กว่า 1,400 รายการ ตั้งแต่เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ไปจนถึงโลหะและชิ้นส่วนยานยนต์
ภายใต้กฎหมายดังกล่าว รถยนต์นำเข้าจากจีนจะเผชิญกับอัตราภาษีสูงสุดที่ 50% โดยในปัจจุบันยานยนต์ของจีนครองส่วนแบ่งตลาดเม็กซิโกถึง 20% ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากปริมาณการนำเข้ารถยนต์เพียงเล็กน้อยเมื่อ 6 ปีที่แล้ว
รายงานข่าวระบุว่า ความเคลื่อนไหวของเม็กซิโกมีขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบาม พยายามหาทางปกป้องอุตสาหกรรมของประเทศ และสอดคล้องกับความพยายามของสหรัฐฯ ที่คุมเข้มการค้ากับจีน
ด้านเจ้าหน้าที่จีนได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงต่อมาตรการดังกล่าวของเม็กซิโกว่า ไม่มีเหตุผลและมุ่งร้าย
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังเม็กซิโกคาดการณ์ว่า ภาษีใหม่นี้จะช่วยเพิ่มรายได้เกือบ 5.2 หมื่นล้านเปโซ (2.8 พันล้านดอลลาร์) ในปีหน้า
อย่างไรก็ดี บรรดาผู้ผลิตที่ต้องพึ่งพาปัจจัยการผลิตจากจีน อินเดีย และเกาหลีใต้ รวมถึงประเทศอื่น ๆ ต่างเตือนถึงต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ขณะที่สมาชิกสภานิติบัญญัติบางราย รวมถึงจากพรรครัฐบาล พยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับภูมิภาคซึ่งหลายฝ่ายมองว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการกระจายตลาดส่งออกของเม็กซิโก