ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อออกกฎระเบียบเดียวในการกำกับดูแลปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งคำสั่งดังกล่าวเป็นการสกัดอำนาจของรัฐต่าง ๆ ในการออกกฎระเบียบในเรื่องนี้ โดยเฉพาะรัฐที่เป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครต
คำสั่งดังกล่าวซึ่งมีการเผยแพร่ในวันพฤหัสบดี (11 ธ.ค.) ระบุว่า "เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ บริษัท AI ของสหรัฐฯ จะต้องมีอิสระในการสร้างสรรค์นวัตกรรมโดยปราศจากการกำกับดูแลที่ยุ่งยากซับซ้อน" และเสริมว่า "แต่การกำกับดูแลของรัฐที่มากจนเกินไปจะขัดขวางนวัตกรรมที่จำเป็นนี้"
คำสั่งฝ่ายบริหารของปธน.ทรัมป์ยังเรียกร้องให้อัยการสูงสุดจัดตั้งหน่วยงาน "AI Litigation Task Force" ซึ่งเป็นหน่วยงานเฉพาะกิจที่มีหน้าที่รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการจัดการกับรัฐที่ละเมิดกฎหมาย AI โดยรัฐที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอาจเผชิญกับข้อจำกัดด้านเงินทุน
ทั้งนี้ คำสั่งระบุว่าภายใน 90 วันนับจากการลงนาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ต้องกำหนดเงื่อนไขที่รัฐต่าง ๆ อาจมีสิทธิ์ได้รับเงินทุนที่เหลืออยู่ภายใต้โครงการ Broadband Equity Access and Deployment หรือ BEAD ซึ่งเป็นโครงการมูลค่า 4.25 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อขยายการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชนบท
ปธน.ทรัมป์กล่าวในระหว่างการลงนามที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวว่า มาตรการนี้มีความจำเป็นเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเทคโนโลยีที่กำลังเติบโต และเพื่อตอบโต้กฎระเบียบระดับรัฐที่ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งบริษัทในอุตสาหกรรมนี้กังวลว่าจะขัดขวางการเติบโตของพวกเขา
"คุณต้องมีแหล่งกลางในการอนุมัติเมื่อพวกเขาต้องการการอนุมัติ ดังนั้นสิ่งต่าง ๆ ต้องมาที่แหล่งเดียว พวกเขาไม่สามารถไปที่แคลิฟอร์เนีย นิวยอร์ก และสถานที่อื่น ๆ ได้" ปธน.ทรัมป์กล่าวที่ผ่านมานั้น คณะบริหารของปธน.ทรัมป์ได้พยายามผลักดันแผนการที่จะอนุญาตให้กฎระเบียบเกี่ยวกับ AI ของรัฐบาลกลางมีอำนาจเหนือกว่ากฎระเบียบของรัฐต่าง ๆ โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้รัฐใหญ่ ๆ ที่เป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครต เช่น แคลิฟอร์เนียและนิวยอร์ก ใช้กฎระเบียบของตนเองเพื่อควบคุมอุตสาหกรรม AI ที่กำลังเติบโต
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัฐบาลทรัมป์ถือเป็นชัยชนะสำหรับบริษัทเทคโนโลยี เช่น โอเพนเอไอ (OpenAI) และกูเกิล (Google) ซึ่งพยายามวิ่งเต้นเพื่อจำกัดกฎระเบียบที่สร้างภาระให้กับบริษัทมากเกินไป โดยรายงานระบุว่า บรรดาบริษัท AI ต่างพากันเปิดสำนักงานใกล้กับอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ และเปิดตัวแคมเปญผ่านโครงการ Super PAC ที่มีเงินทุนอย่างน้อย 100 ล้านดอลลาร์เพื่อใช้ในการเลือกตั้งกลางเทอมในปี 2569