ดร.เคท อามอร์ นักวิจัยประจำมหาวิทยาโอทาโกระบุว่า ผลวิจัยดังกล่าว ซึ่งอิงกับการสำรวจสำมะโนประชากรล่าสุดและข้อมูลที่พักอาศัยฉุกเฉิน นับเป็นข้อมูลสถิติครั้งแรกของประเทศที่เกี่ยวกับกลุ่มประชาชนที่มีความ "เสียเปรียบอย่างรุนแรง"
"ประชาชน 34,000 คนกลุ่มนี้พักอยู่อย่างเบียดเสียดกับครอบครัวหรือเพื่อน อาศัยอยู่ในบ้านเช่า พื้นที่พักแรม ที่พักอาศัยฉุกเฉิน ในรถยนต์ หรือตามท้องถนน พวกเขาต่างก็มีรายได้ต่ำ" ดร.อามอร์กล่าว
"หลายคนในจำนวนนี้ไม่ได้ถูกรวมไว้ในข้อมูลสถิติด้านความยากจนและการว่างงาน และไม่ได้อยู่ในรายชื่อที่รอบ้านพักสวัสดิการสังคม" ดร.อามอร์ระบุ
ผลวิจัยระบุว่า 1 ใน 4 ของกลุ่มผู้ที่"ขาดแคลนที่อยู่อาศัยขั้นรุนแรง"ดังกล่าว เป็นเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี ขณะที่ราว 1 ใน 3 ของผู้ใหญ่ในกลุ่มดังกล่าวมีงานทำ แต่ยังไม่สามารถหาบ้านให้กับตัวเองหรือครอบครัวได้
"เรารู้ว่าการขาดแคลนที่อยู่อาศัย ความยากจน การอยู่อย่างแออัดเป็นปัญหาที่รุนแรงในนิวซีแลนด์ ดังนั้น รายงานวิจัยเหล่านี้จึงไม่ใช่สิ่งที่น่าประหลาดใจ เราคาดการณ์ว่าปัญหาในตอนนี้มีความรุนแรงกว่าเมื่อปี 2549" ดร.อะมอร์กล่าว
"รายงานการวิจัยนี้เป็นเพียงหลักฐานที่การตอกย้ำว่าที่พักอาศัยเป็นปัญหาใหญ่ และเราต้องการบ้านที่มีคุณภาพดีมากขึ้นจำนวนมาก ซึ่งประชาชนที่มีรายได้ต่ำสามารถจับจองเป็นที่อยู่อาศัยได้" เธอกล่าว
"รัฐบาลจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับคนเหล่านี้ทั้งหมด ไม่ใช่รู้เพียงแค่กลุ่มที่อยู่ตามท้องถนน"