ผลวิจัยเผยชาวนิวซีแลนด์หลายหมื่นคนไม่มีเงินพอจะซื้อบ้าน

ข่าวต่างประเทศ Monday September 23, 2013 17:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ผลวิจัยล่าสุดของมหาลัยโอทาโกระบุว่า ประชาชนนิวซีแลนด์ 1 ใน 120 คน หรือคิดเป็นจำนวนทั้งหมดราว 34,000 คน ไม่สามารถเข้าถึงตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2549 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาวะฟองสบู่ด้านราคาอสังหาริมทรัพย์และราคาที่พักอาศัยที่พุ่งขึ้นในนิวซีแลนด์อาจเลวร้ายมากกว่าที่คาดการณ์ไว้

ดร.เคท อามอร์ นักวิจัยประจำมหาวิทยาโอทาโกระบุว่า ผลวิจัยดังกล่าว ซึ่งอิงกับการสำรวจสำมะโนประชากรล่าสุดและข้อมูลที่พักอาศัยฉุกเฉิน นับเป็นข้อมูลสถิติครั้งแรกของประเทศที่เกี่ยวกับกลุ่มประชาชนที่มีความ "เสียเปรียบอย่างรุนแรง"

"ประชาชน 34,000 คนกลุ่มนี้พักอยู่อย่างเบียดเสียดกับครอบครัวหรือเพื่อน อาศัยอยู่ในบ้านเช่า พื้นที่พักแรม ที่พักอาศัยฉุกเฉิน ในรถยนต์ หรือตามท้องถนน พวกเขาต่างก็มีรายได้ต่ำ" ดร.อามอร์กล่าว

"หลายคนในจำนวนนี้ไม่ได้ถูกรวมไว้ในข้อมูลสถิติด้านความยากจนและการว่างงาน และไม่ได้อยู่ในรายชื่อที่รอบ้านพักสวัสดิการสังคม" ดร.อามอร์ระบุ

ผลวิจัยระบุว่า 1 ใน 4 ของกลุ่มผู้ที่"ขาดแคลนที่อยู่อาศัยขั้นรุนแรง"ดังกล่าว เป็นเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี ขณะที่ราว 1 ใน 3 ของผู้ใหญ่ในกลุ่มดังกล่าวมีงานทำ แต่ยังไม่สามารถหาบ้านให้กับตัวเองหรือครอบครัวได้

"เรารู้ว่าการขาดแคลนที่อยู่อาศัย ความยากจน การอยู่อย่างแออัดเป็นปัญหาที่รุนแรงในนิวซีแลนด์ ดังนั้น รายงานวิจัยเหล่านี้จึงไม่ใช่สิ่งที่น่าประหลาดใจ เราคาดการณ์ว่าปัญหาในตอนนี้มีความรุนแรงกว่าเมื่อปี 2549" ดร.อะมอร์กล่าว

"รายงานการวิจัยนี้เป็นเพียงหลักฐานที่การตอกย้ำว่าที่พักอาศัยเป็นปัญหาใหญ่ และเราต้องการบ้านที่มีคุณภาพดีมากขึ้นจำนวนมาก ซึ่งประชาชนที่มีรายได้ต่ำสามารถจับจองเป็นที่อยู่อาศัยได้" เธอกล่าว

"รัฐบาลจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับคนเหล่านี้ทั้งหมด ไม่ใช่รู้เพียงแค่กลุ่มที่อยู่ตามท้องถนน"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ