นายอาเบะกล่าวในงานสัมมนาธุรกิจความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (APEC CEO Summit) โดยเรียกร้องให้สมาชิกกลุ่มเอเปค เป็นผู้นำโลกด้านการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานขั้นสูงในภาคต่างๆ อาทิ พลังงานและคมนาคม พร้อมกล่าวว่าญี่ปุ่นพร้อมมอบทักษะความรู้เพื่อไปสู่จุดนั้น
ผู้นำญี่ปุ่นยังพูดถึงมติเพิ่มภาษีการขายในเดือนเม.ย.ปีหน้า ซึ่งเป็นการขึ้นภาษีการขายครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปีว่า "การฟื้นฟูเศรษฐกิจและการกอบกู้ฐานะการคลังสามารถไปด้วยกันได้ ไม่มีทางเลือกอื่น (สำหรับญี่ปุ่น) ข้อสรุปของผู้เป็นเช่นนั้น"
"เราจำเป็นต้องฟื้นฟูการคลังสาธารณะและรักษาความเชื่อมั่นของฐานะการคลังเอาไว้ในขณะที่เราเดินหน้าคืนสภาพเศรษฐกิจ" นายอาเบะกล่าว
แม้มีความกังวลว่าการขึ้นภาษีดังกล่าวซึ่งมีเป้าหมายเพื่อรองรับตุ้นสวัสดิการที่พอกพูนนั้น อาจทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เพิ่งเริ่มต้นบอบช้ำ แต่นายอาเบะกล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะเริ่มชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 5 ล้านล้านเยน เพื่อรองรับผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและครัวเรือน ทั้งนี้มีการขึ้นภาษีการขายจาก 5% เป็น 8% ตั้งแต่เดือนเม.ย.เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นกำลังประเมินปัจจัยทางภาษีที่มีผลต่อแรงจูงใจในการลงทุนใหม่ๆ โดยนายอาเบะเสริมว่า รัฐบาลยังจะผ่อนคลายข้อกำหนดต่างๆและส่งเสริมธุรกิจในอุตสาหกรรมสาธารณูปโภค เกษตร และการแพทย์
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่า นโยบายดังกล่าวจะสร้าง "ลูกศรดอกที่ 3" ในชุนโยบายเศรษฐกิจของเขาที่มีชื่อเรียกว่า "อาเบะโนมิกส์" ซึ่งรวมถึงการผ่อนคลายการเงินเชิงรุกของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ)
ในประเด็นนโยบายต่างประเทศและความมั่นคง นายอาเบะกว่าย้ำว่า ญี่ปุ่นจะยังคงเคารพกฎเกณฑ์ของนานาชาติต่อไปและแสวงการเป็น"ผู้มีส่วนร่วมเชิงรุกในเสถียรภาพของโลก" สำนักข่าวเกียวโดรายงาน