"อาเบะ" ย้ำญี่ปุ่นต้องเดินหน้าเพื่อยุติภาวะเงินฝืด-เร่งการเจรจา TPP

ข่าวต่างประเทศ Tuesday October 15, 2013 18:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นต้องพยายามให้มากขึ้นเพื่อยุติภาวะเงินฝืดที่ยืดเยี้อของประเทศ พร้อมกันนี้ได้ประกาศการตัดสินใจของเขาที่จะใช้ยุทธศาสตร์การขยายตัวแบบสุดกำลัง ซึ่งจะจูงใจให้บริษัทต่างๆขึ้นเงินเดือนและเพิ่มการจ้างงาน

นายอาเบะแถลงสุนทรพจน์เกี่ยวนโยบายในการเปิดประชุมสภาไดเอทวาระพิเศษว่า รัฐบาลจะต้องแก้ไขการจัดสรรเงินให้แก่ภาคสาธารณะที่ย่ำแย่ลง และกล่าวว่าญี่ปุ่นจะเร่งให้การเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคพื้นแปซิฟิคซึ่งนำโดยสหรัฐนั้น บังเกิดผลสำเร็จภายในปีนี้

นายอาเบะกล่าวว่า ความพยายามของรัฐบาลที่จะยุติภาวะเงินฝืดที่ยืดเยื้อมากเกือบ 20 ปีนั้น "เสร็จสิ้นไปเพียงครึ่งเดียว" โดยนายอาเบะให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจเศรษฐกิจของประเทศเป็นลำดับแรก นับตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้วด้วยการเปิดตัวนโยบายต่างๆ อาทิ การผ่อนคลายทางการเงินอย่างจริงจังมากขึ้นโดยธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) และการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลญี่ปุ่นที่มีความยืดหยุ่นขึ้น

สำหรับการประเมินของนายอาเบะบ่งชี้ว่า เขารู้สึกว่ายังมีเรื่องให้ต้องดำเนินการอีกเพื่อขยายความรู้สึกเชิงบวกไปทั่วทั้งเศรษฐกิจ แม้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจเมื่อเร็วๆนี้จะปรับตัวดีขึ้นก็ตาม

ขณะเดียวกัน ผู้นำญี่ปุ่นยังหันไปให้ความสนใจเรื่องการสนับสนุนให้บริษัทต่างๆเต็มใจที่จะขึ้นเงินเดือนและขยายการจ้างงานมากขึ้น ตลอดจนการคลายข้อกำหนดต่างๆ การลดหย่อนภาษี และมาตรการที่หนุนการเติบโตอื่นๆ

นายอาเบะยังเน้นย้ำในระหว่างแถลงสุนทรพจน์ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะเร่งเดินหน้ามาตรการต่างๆในอีก 3 ปีข้างหน้า และสนับสนุนการใช้จ่ายเงินทุนของภาคเอกชน พร้อมกับจะรับมือความท้าทายต่างๆ อาทิ การทำให้ตลาดพลังงานไฟฟ้ามีศักยภาพการแข่งขันที่สูงขึ้น และเพิ่มรายได้ในภาคเกษตรเป็น 2 เท่าในอีก 10 ปีข้างหน้า

ก่อนหน้านี้ นายอาเบะเคยกล่าวว่า การขึ้นภาษีการขายเป็น 8% ตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีหน้า จากปัจจุบันที่ 5% ซึ่งเป็นการขึ้นภาษีการขายครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปีนั้น จะทำให้เขาสามารถสนับสนุนเศรษฐกิจด้วยการใช้มาตรการกระตุ้นต่างๆ เพื่อรองรับผลกระทบเชิงลบต่อการใช้จ่ายภาคครัวเรือนและธุรกิจ

ในประเด็นผ่อนคลายกฎหมายเพื่อส่งเสริมการขยายตัวนั้น นายอาเบะแถลงต่อสภาไดเอทว่า เขาเล็งผลักดันให้กรุงโตเกียว ซึ่งจะเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิคภาคฤดูร้อน 2020 เป็น "นครแห่งธุรกิจล้ำหน้าที่สุดของโลก" โดยการ "ขจัดกฎเกณฑ์และข้อกำหนดที่มีเฉพาะในญี่ปุ่น"

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นพร้อมๆกับแผนการณ์ของรัฐบาลที่จะจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษสำหรับสาธารณูปโภคพื้นฐานและโครงการอื่นๆที่เกี่ยวข้อกับการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิคของกรุงโตเกียว สำนักข่าวเกียวโดรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ