ADB เตือนสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงส่อแววหั่นจีดีพีเอเชียตะวันออกลง 5.3%

ข่าวต่างประเทศ Thursday October 17, 2013 14:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอาจส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของภูมิภาคเอเชียตะวันออกลดลงโดยเฉลี่ย 5.3% ภายในปี 2643 หากทั้ง 4 ประเทศไม่หามาตรการมารับมือกับปัญหา

รายงาน Economics of Climate Change in East Asia ของเอดีบีระบุว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิในจีน ญี่ปุ่น มองโกเลีย และเกาหลีใต้ จะเพิ่มอัตราการเกิดอุทกภัยและลมพายุโซนร้อนในเขตพื้นที่ชายฝั่ง และส่งผลให้เกิดความแห้งแล้งในพื้นที่เกษตรทางตอนเหนือ

ผลการศึกษาได้เน้นย้ำถึงความเสี่ยงในการปล่อยปละละเลยเรื่องสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงในภูมิภาค ซึ่งมีสัดส่วนการปลดปล่อยก่าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ 30% ของโลกในปี 2553 โมเดลการผลักดันเศรษฐกิจขยายตัวของจีนส่งผลให้จีนป็นประเทศที่ปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนมากที่สุดในโลก และหลายๆเมืองของจีนเองก็ถูกปกคลุมไปด้วยกลุ่มหมอกพิษที่สูงกว่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลกเกือบ 40 เท่า

“เอเชียตะวันออกจำเป็นต้องเปลี่ยนไปใช้โมเดลการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ให้ความสำคัญกับการปล่อยคาร์บอนและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในจีนนั้น มาตรการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะนำไปสู่การเพิ่มคุณภาพอากาศในภูมิภาค และลดปัญหาสุขภาพของคนในเมือง" รายงานระบุ

นอกจากนี้ ผลการประเมินในปัจจุบันบ่งชี้ว่า อุณหภูมิโดยเฉลี่ยในปี 2633 จะสูงกว่าค่าเฉลี่ยระหว่างปี 2504-2553 ที่ 3.8-5.2 องศาเซสเซียส โดยภูมิภาคดังกล่าวมีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ในทุก 100 ปี ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประชาชน 12 ล้านคนใน 23 เมือง และสร้างความเสียหายราว 8.64 แสนล้านดอลลาร์ รายงานระบุ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ