นายธีรูให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า “ข้อมูลดังกล่าวเป็นเรื่องข้อมูลที่น่าพอใจ และการปรับตัวที่ดีขึ้นของภาวะสินเชื่อมีความสอดคล้องกับการปรับตัวที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจอังกฤษ"
อย่างไรก็ดี นายธีรูระบุว่า บริษัทสมาชิกหอการค้าอังกฤษหลายแห่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทก่อตั้งใหม่และบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็วยังคงประสบความยากลำบากในการเพิ่มทุนให้ได้ตามต้องการ ในขณะที่บริษัทขนาดใหญ่ที่ก่อตั้งมานานสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ตามความจำเป็น
ด้านนายโฮวาร์ด อาร์เชอร์ หัวหน้านักเศรษศาสตร์ประจำอังกฤษและยุโรปของไอเอสเอช โกลบอล อินไซท์ กล่าวว่า ผลการสำรวจภาวะสินเชื่อของธนาคารกลางอังกฤษเป็นเรื่องที่น่ายินดี เนื่องจากได้บ่งชี้ถึงภาวะสินเชื่อที่กำลังปรับตัวดีขึ้นสำหรับภาคธุรกิจและครัวเรือน
ทั้งนี้ ผลการสำรวจของธนาคารกลางอังกฤษได้รายงานถึงการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของปริมาณสินเชื่อสำหรับภาคธุกริจในไตรมาสที่ 4 ปี 2556 และคาดว่าจะยังคงขยายตัวในไตรมาสแรกของปี 2557
ข้อมูลดังกล่าวสวนทางกับรายงานของภาคธุรกิจที่เปิดเผยอย่างต่อเนื่องว่า หนึ่งในอุปสรรคในการขยายตัวของธุรกิจที่กำลังประสบปัญหาก็คือการได้รับเงินทุนเพื่อขยายธุรกิจ
ธนาคารกลางอังกฤษได้กลับมาให้ความสำคัญกับโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ Funding for Lending Scheme (FLS) ตั้งแต่เริ่มต้นปีนี้โดยจะไม่ต้องเพิ่มปริมาณเงินเพื่อขยายสินเชื่อให้กับผู้ขอกู้สินเชื่อจำนองอีกต่อไป แต่จะไปให้ความสำคัญกับการให้สินเชื่อแก่ธุรกิจ ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์แรกในการก่อตั้งธนาคารกลางอังกฤษ
เราจำเป็นต้องมีความหวังว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นแรงผลักดันในเชิงบวกท่ามกลางการปรับตัวที่ดีขึ้นอย่างมากของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ นายอาร์เชอร์กล่าว
“สิ่งที่สำคัญ มีรายงานถึงปริมาณสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นสำหรับทั้งธุรกิจขนาดเล็กและขนาดใหญ่" เขากล่าวเสริม
นายอาร์เชอร์กล่าวว่า รายงานระบุว่า การเพิ่มขึ้นของปริมาณสินเชื่อเนื่องมาจากการปรับตัวที่ดีขึ้นของภาวะเศรษฐกิจ การเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งตลาด และการแข่งขันในตลาดเงินทุน