ผลกำไรซึ่งไม่นับรวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวและการเปลี่ยนแปลงสินค้าคงคลังอยู่ที่ 2.9 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ลดลงจากระดับ 5.6 พันล้านดอลลาร์ในปีก่อนหน้า ซึ่งสอดคล้องกับที่เชลล์ได้คาดการณ์ก่อนหน้านี้ หลังจากที่ผลการดำเนินงานในทวีปอเมริกาออกมาไม่น่าพึงพอใจ ตลอดจนค่าการกลั่นที่ลดลง อีกทั้งยังมีการระงับการผลิตในไนจีเรีย
นายเบ็น แวน เบอร์เดน ซีอีโอของเชลล์ มีแผนเร่งขายสินทรัพย์ของบริษัทโดยได้จัดทำข้อตกลงไปแล้ว 2 ฉบับด้วยกัน เพื่อลดค่าใช้จ่ายและกอบกู้ความเชื่อมั่นของบรรดานักลงทุน หลังจากที่เชลล์ได้ประกาศเตือนด้านผลกำไรเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี