มหาวิทยาลัยแมสซีได้สำรวจความคิดเห็นของชาวเมืองหลานโจว ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลกานซู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน โดยพบว่า 28% ของผู้ตอบแบบสอบถาม 531 คน จัดอันดับผลิตภัณฑ์นมของนิวซีแลนด์ในระดับ “ไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง"
ขณะที่ผู้ทำแบบสำรวจ 14.8% ประเมินว่า ผลิตภัณฑ์นมของออสเตรเลีย และแคนาดาอยู่ในระดับไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง ส่วนของสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรปได้รับการจัดอันดับดังกล่าวโดยผู้ตอบแบบสอบถาม 13.2% และ 12.5% ตามลำดับ
ผลสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นในเดือนต.ค. ปีที่แล้ว หรือ 2 เดือนหลังจากที่ความหวั่นวิตกเกี่ยวกับเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อนผลิตภัณฑ์นมของบริษัทใหญ่อย่างฟอนเทียร่า ทำให้ทั่วโลกกลับมาตื่นตัวเรื่องนมผงทารก และผลิตภัณฑ์เวย์โปรตีนเข้มข้นอื่นๆนั้นได้กลายเป็นสัญญาณเตือนภัยหลอก
ศาสตราจารย์สตีฟ ฟลินท์ จากภาควิชาจุลชีววิทยาและความปลอดภัยด้านอาหารกล่าวว่า ความกลัวเกี่ยวกับโรคโบทูลิซึมน่าจะส่งผลกระทบต่อการตอบแบบสำรวจ
ศ. ฟลินท์ระบุในแถลงการณ์ว่า “หากนี่เป็นเรื่องจริง ก็แสดงให้เห็นถึงอำนาจของสื่อมวลชนที่มีอิทธิพลต่อความเชื่อมั่นของผู้คนในเรื่องความปลอดภัยของอาหาร"
ด้วยเหตุนี้ นายกรัฐมนตรีจอห์น คีย์ ของนิวซีแลนด์จึงจำเป็นต้องทำให้สื่อมวลชนของจีนรายงานข้อมูลเชิงบวกในระหว่างการเดินทางเยือนประเทศจีน ขณะที่เขากำลังแสวงหาแนวทางเพื่อฟื้นคืนความเชื่อมั่นให้กับการส่งออกผลิตภัณฑ์นมของนิวซีแลนด์
“ชาวนิวซีแลนด์ภูมิใจกับชื่อเสียงของเราในฐานะผู้ผลิตอาหารที่ปลอดภัยให้ทั่วโลก ซึ่งเศรษฐกิจของเราก็พึ่งพิงชื่อเสียงนี้" ศ. ฟลินท์กล่าว
“จีนเป็นหนึ่งในตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของเรา และเราก็เชื่อมาตลอดว่า ชาวจีนเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของนิวซีแลนด์ ซึ่งหากนี่ไม่ใช่ความจริง เราก็คงจะต้องประเมินจุดยืนของเราในเวทีโลกอีกครั้งว่า ลูกค้าของเรามีมุมมองอย่างไรต่อความปลอดภัยในอาหารของนิวซีแลนด์" สำนักข่าวซินหัวรายงาน