นอกจากนี้ นายอาโสะยังได้อ้างถึงถ้อยแถลงของนางเยลเลนเมื่อวานนี้ที่ส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ จนทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงอย่างหนัก
"เยลเลนสื่อสารกับนักลงทุนในตลาดการเงินได้แย่มาก จนทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปั่นป่วน" นายอาโสะกล่าวในระหว่างแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
อย่างไรก็ตาม นายอาโสะกล่าวว่า การที่เฟดเดินหน้าปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) นั้น ถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัว
ทั้งนี้ นางเยลเลนกล่าวภายหลังการประชุมครั้งล่าสุดของเฟดเมื่อวานนี้ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกหลังจากที่เฟดยุติการใช้มาตรการ QE ไปแล้วราว 6 เดือน ส่วนในการประชุมครั้งนี้ เฟดมีมติปรับลดขนาดมาตรการ QE ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ในการประชุมล่าสุด ส่งผลให้วงเงินการซื้อพันธบัตรปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน โดยจะเริ่มดำเนินการดังกล่าวในเดือนเม.ย.ปีนี้
แถลงการณ์ภายหลังการประชุมของเฟดในครั้งนี้ระบุว่า ข้อมูลที่ได้รับนับตั้งแต่ที่คณะกรรมการ FOMC ประชุมกันในเดือนม.ค.บ่งชี้ว่า การขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ชะลอตัวลงในระยะเวลาหลายเดือนในช่วงฤดูหนาว ซึ่งบางส่วนสะท้อนถึงสภาพอากาศที่เลวร้าย ขณะที่ปัจจัยชี้วัดตลาดแรงงานปรับตัวแตกต่างกัน แต่เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้วมีการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม อัตราว่างงานยังคงอยู่ที่ระดับสูง การใช้จ่ายในภาคครัวเรือนและการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของภาคธุรกิจมีความคืบหน้า